
ประเด็นคือ – ตำรวจเตรียมพร้อม แถลงบทสรุปคดีหวย 30 ล้าน ระหว่างอดีตข้าราชการตำรวจและครูชำนาญการพิเศษ เมืองกาญ สองคนรู้แก่ใจ 1 ในนั้นคือคนโกหก
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบช.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนและสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัล 30 ล้านบาท เปิดเผยว่า จากผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่ส่งไปตรวจและปรากฏผลออกมาแล้วนั้น ยังมีบางประเด็นที่ยังตอบข้อสงสัยไม่ได้ จึงส่งวัตถุพยาน 1 ชิ้น ไปตรวจพิสูจน์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากกองสลากฯ
โดยจะทราบผลในวันนี้ (31 ม.ค.) เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนให้หมดข้อสงสัย สำหรับวัตถุพยานดังกล่าวเกี่ยวกับล็อตเตอรี่ชุดถูกรางวัล ไม่ใช่ซองพลาสติกใส่ล็อตเตอรี่ เพราะทุกคนได้จับซอง ฉะนั้นไม่มีประโยชน์ในการตรวจพิสูจน์ ซึ่งในวันนี้จะเปิดเผยได้ว่าจากพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่นั้น มีอะไรบ้าง ที่น่าเชื่อว่าล็อตเตอรี่ฉบับถูกรางวัลเป็นของผู้ใด

ขณะที่ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า คดีนี้นายปรีชา เข้าแจ้งความในข้อหายักยอกสลากฯ ต่อพนักงานสอบสวน ดังนั้น หากพบว่าคดีมีมูลก็จะต้องดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญ ในข้อหายักยอกของตกหรือรับของโจร แต่หากพบว่าไม่มีมูลก็จะสั่งไม่ฟ้อง
ขณะนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลเป็นของใคร ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ขณะที่ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถบ่งชี้หรือชี้ชัดได้ เพราะร.ต.ท.จรูญ เป็นผู้ถือล็อตเตอรี่นำไปขึ้นเงิน ฉะนั้นจะต้องมีลายนิ้วมือร.ต.ท.จรูญ แต่ไม่สามารถนำผลดังกล่าวมาสรุปได้ว่าล็อตเตอรี่เป็นของ ร.ต.ท.จรูญ
พยานบุคคลที่มาให้การต่อพนักงานสอบสวน พบว่าคำให้การสอดคล้องกัน ไม่มีพิรุธ หรือน่าสงสัย ตำรวจไม่ได้หนักใจ ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน และส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งคดี เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาคดีต่อไป

พล.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า มีแนวโน้มว่าคดีนี้มีมูล แต่ไม่พบหลักฐานเป็นคลิปภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพบุคคลเก็บล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลได้ ตามที่นายปรีชากล่าวอ้าง แต่มีพยานเห็นว่ามีคนเก็บล็อตเตอรี่ได้ตามคำกล่าวอ้างของนายปรีชา แต่ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมนายปรีชา จึงไม่ส่งคลิปหรือหลักฐานที่กล่าวอ้างให้พนักงานสอบสวนในชั้นสอบสวน แต่กลับอ้างว่าจะนำไปต่อสู้ในชั้นศาล
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการต้องการให้เกิดความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาและให้สังคมทราบข้อเท็จจริง และเกิดความกระจ่างในเรื่องนี้ โดยในวันที่ 31 ม.ค. เวลา 09.00 น. ได้นัดประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปความเห็นในคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จากนั้นเวลา 14.00 น. ตนจะเป็นผู้แถลงข่าวต่อไป









