พริตตี้สาวประเภท 2 เมืองตรัง ร้องผ่านสื่อขอให้คลินิกเสริมความงามรับผิดชอบค่ารักษา เอาสารฟิลเลอร์ตกค้างในผิวหน้าออก หลังจากฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปแล้วมีอาการแพ้ หน้าตาบูดเบี้ยวเป็นหนอง ดำเนินการแจ้ง สคบ.แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า นายเวชพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อยู่หมู่ที่ 2 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง โดยนำเอกสารหลักฐานการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมาให้ดูประกอบด้วย ทั้งอัตราค่าพยาบาล และเจ้าของคลินิก เป็นแพทย์โรงพยาบาลของรัฐ มีชื่อเสียงในวงการแพทย์เสริมสวยความงามของเมืองตรังและจังหวัดใกล้เคียง
นายเวชพงษ์ หรือน้องโดม เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองได้ฉีดสารฟิลเลอร์เมื่อปลายเดือน ก.ย. – ต.ค. ปีที่แล้ว เกิดปัญหาหลังฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไปวันที่ 24 ก.ย. 60 หลังฉีดประมาณ 4-5 ชม. มีอาการตาปิด ปากบวม หน้าบิดเบี้ยวผิดรูป เพราะที่เคยฉีดมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จึงมั่นใจว่าตนเองแพ้สารตัวนี้
ตอนนั้นตนเองได้สอบถามไปยังหมอได้รับคำตอบว่าปกติ แต่เมื่อเข้ารักษากับหมอคนอื่นก็ยืนยันว่ามีอาการแพ้ อยู่ในภาวะติดเชื้อ ตนจึงได้หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน บ้านเราไม่นิยมใช้กัน
โดยขณะนั้นมีอาการ 27-28 วันแล้ว ต้องฉีดและกินยา มีอาการเจ็บไปหมดทั้งตัว ความดันขึ้น 200-220 ค่าเม็ดเลือดขาวประมาณ 13,000 ซึ่งคนปกติไม่ถึง แล้วต่อมาก็มีอาการท้องเสีย หมอบอกว่ารับยามากเกินไปจึงหยุดจ่ายยาให้
ทั้งนี้ตนเองเคยติดต่อหมอไป 1 ครั้ง และเพื่อนติดต่อให้ 1 ครั้ง ถ้าถามว่าอยากจะฟ้องหรือไม่ ตอนแรกตอบเลยว่าไม่ คือถ้าทุกวันนี้ทางคลินิกมาเคลียร์ มารับผิดชอบตรงนี้ ส่งต่อในการรักษา ตนเองก็ไม่ติดใจอะไร แต่คลินิกต้องขอโทษตนด้วย เพราะคลินิกโจมตีตนเองหนัก เพราะก็มีหลักฐานพยานเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาทางคลินิกปฏิเสธความรับผิดชอบมาโดยตลอด
คุณหมอบอกว่า อาการดังกล่าวเกิดจากฟิลเลอร์ตกค้าง ไม่ใช่เพียงจุดเดียว มีร่องแก้ม หน้าผาก โหนกแก้ม ซึ่งบางส่วนยังไม่เต็มหน้า หมอบอกว่าต้องรอให้หายอักเสบ แนวทางการรักษาต้องเอาหนองออก ซึ่งตนเองได้เปลี่ยนไปรักษาที่คลินิกอีกแห่งหนึ่ง หมอดีมาก ให้คำแนะนำดี เมื่อเอาหนองออกไปอาการก็ดีขึ้นมาก
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ มีผลกระทบกับงานมาก ไม่ได้ทำงานเลย นอนอยู่บ้านอย่างเดียว ไม่กล้าออกจากบ้าน ตนเองเป็นคนรักสวย ขาดความมั่นใจ งานประจำไม่ได้ทำแล้ว ทำงานฟรีแลนซ์ 27-28 วันแล้วที่ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งตอนนี้ตนเองต้องรอให้อาการดีขึ้น และหาข้อมูลว่าหมอที่ไหนดีบ้าง ถ้าต้องผ่าก็อยากผ่า แต่ดูแล้วไม่ค่อยปลอดภัย อาจมีผลข้างเคียง ตอนนี้ 50:50 ตนเองไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร หมอที่ จ.ตรัง ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ คาดว่าต้องเดินทางไปรักษาที่ กทม.
ทั้งนี้อยากจะบอกกับทุกคนที่อยากสวยแล้วฉีดโน่นฉีดนี่ ทำได้นะแต่ต้องศึกษาเยอะๆ ตนเองเคยเป็นที่ปรึกษาเรื่องความงามยังพลาดได้ ตนรับผิดชอบของการทำงานในหน้าที่ แลกกับความจริงใจของลูกค้าโดยใช้หน้าตนเองทดลอง เวลามีผลิตภัณฑ์ของใหม่มา ถามว่ากล้าใช้หรือไม่ ถ้าใช้แล้วสวยก็ดีไป ถ้าพังขึ้นมางานบ้างเงินบ้าง ทุกวันนี้ทำใจยอมรับกับหนองที่หน้าและส่วนอื่นที่ยังมีสารตกค้างจากสารฟิลเลอร์ นายเวชพงษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
