
ประเด็นคือ – เจ้าของร้านอาบน้ำสุนัข แจงค่าใช้จ่าย 2,800 บาท เนื่องจากตีราคาตามเคสของสุนัข เผย เปิดร้านมากว่า 10 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจว่าร้านเป็นแบบไหน
จากเหตุการณ์ที่ นายสิทธิชัย วิจิตรวงษ์ อายุ 32 ปี เผยแพร่ภาพแบบไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 ธ.ค. 60) ถึงกรณีถูกร้านรับจ้างอาบน้ำแต่งขนสุนัขเรียกเก็บค่าบริการในราคาที่สูงถึง 2,800 บาท โดยระบุว่าเป็นราคาที่แพงที่สุดในประเทศไทย นั้น
ล่าสุดวันนี้ (8 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับนายสิทธิชัยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายสิทธิชัยเล่าว่า ” ได้นำสุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศ “ซิลเวอร์ ฟ็อก ไซบีเรียน” ไปให้ทางร้านอาบน้ำ เมื่ออาบเสร็จทางร้านคิดค่าบริการสูงถึง 2,800 บาท จึงเข้าไปสอบถามรายละเอียด โดยร้านได้เขียนชี้แจงในบิลเรียกเก็บเงิน แยกออกเป็นค่าบริการดังนี้ คือ
- ค่าอาบน้ำ 1,500 บาท
- ค่าสางขน 850 บาท
- ค่ากันท้อง กันใต้อุ้งเท้า 150 บาท
- ค่าน้ำยากำจัดกลิ่นสาบ 300 บาท
รวมเป็นเงิน 2,800 บาท
ทั้งที่ขณะที่ตนนำสุนัขมาส่งให้ที่ร้านนั้น ได้บอกว่าให้อาบน้ำเพียงอย่างเดียว

สำหรับร้านนี้ ที่ผ่านมาก็เคยนำลูกสุนัขมาอาบน้ำ ซึ่งก็คิดราคาแบบทั่วไป คือตัวละ 200 บาท เคยพูดคุยกันอยู่บ้าง โดยที่ทางร้านนั้นอ้างว่าสุนัขของตนมีขนที่พันกันเยอะถึง 3 ชั้น จึงต้องสางให้ แต่หลังจากมีปัญหากันแล้วเขากลับบอกว่า ถ้านำมาอาบน้ำเพียงอย่างเดียวเขาไม่รับทำให้ คือต้องทำตามวิธีของเขา หรือต้องให้มืออาชีพทำให้ในทำนองนั้น

ร้านอาบน้ำสุนัข แจง คิดราคาตามขนาดของสุนัข
ส่วนทางด้าน น.ส.กนกวรรณ เสียงประเสริฐ อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน “โกเมน เพ็ทช็อป” ซึ่งเป็นร้านอาบน้ำที่เจ้าของสุนัขพูดถึง ได้ออกมาเผยว่า “สุนัขที่ลูกค้านำเข้ามาอาบน้ำนั้นเป็นสุนัขพ่อพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ซึ่งเป็นสุนัขไซส์ใหญ่ ค่าบริการในการอาบน้ำสุนัขราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 บาท ส่วนราคา 2,800 บาท มาจากค่าบริการส่วนอื่นๆ ฉะนั้น ขั้นตอนในการทำงานจึงค่อนข้างยากกว่าสุนัขไซส์เล็กๆ ทั่วไป จึงขึ้นอยู่กับการบริการว่าเราทำอะไรไปบ้าง ต้องตีราคาตามเคส

“ที่ผ่านมาได้ทำการเปิดร้านให้บริการมานานถึงกว่า 10 ปีแล้ว ลูกค้าจะรู้และเข้าใจว่าเราทำงานกันแบบไหน และเราก็จะทำการชี้แจงให้ทราบทุกครั้งหลังการทำงานว่าสุนัขของลูกค้าแต่ละรายที่นำเข้ามาให้ทำนั้น มีปัญหาในเรื่องอะไรบ้าง ก็จะบอกกับลูกค้าว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไรอีกบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะรับได้”

“ทีมข่าวเวิรค์พอยท์” จึงได้ค้นหาข้อเท็จจริงกับราคานี้ว่าแพงเกินจริงหรือไม่ โดยข้อมูลจากร้าน mini petshop ตั้งอยู่ที่ ต.พันท้าย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเปิดให้บริการอาบน้ำตัดขนสัตว์มาหลายปี มี นางสาวสุนันทา วงศ์ขจรไกล เจ้าของร้าน ระบุว่า ช่างส่วนใหญ่ต้องผ่านการเรียนโรงเรียนสอนหลักสูตร หากเป็นพันธุ์เล็ก เช่น ปอม จะมีราคาเฉลี่ย 300 – 350 บาท ส่วนพันธุ์ใหญ่ เช่น ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีขนเยอะ จะราคา 1,500 บาท แต่จะรวมค่าตัดขนที่อุ้งเท้าและใส่ยากำจัดกลิ่นสาบในตัวด้วย จึงคิดว่าราคานี้แพงเกินไป แต่หากร้านตั้งในเมืองอาจจะมีปัจจัยค่าเช่าที่ร่วมด้วย

นอกจากนี้ โดยปกติการให้บริการลูกค้าจะแจ้งความประสงค์ว่าให้ตัดแบบไหน ต้องการบริการเสริมหรือไม่ โดยเฉพาะการสางขน ต้องดูแต่ละเคสว่าขนสุนัขมีขนติดหรือพันมากไปไหม จะแจ้งลูกค้าให้ทราบและแจ้งราคาก่อน เพราะต้องใช้เวลาสางเฉลี่ยตัวละ 1 – 3 ชม. ตามขนาดของสุนัข แต่ปกติจะไม่สาง เพราะสุนัขเจ็บ









