หลังจากเหตุชายวัยกลางคนไม่ยอมหลบรถกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ขณะนำตัวผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทจนชายวัยกลางคนถือขวานออกมา วันนี้ทางลุงที่ถือขวานออกมาชี้แจงว่าเป็นเหตุเข้าใจผิดทั้งหมด
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2560 นายคารมย์ เรืองแจ่ม เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง จุดโยธิน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.วรภัทร แก้วดวงเทียม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตนได้รับแจ้งว่ามีคนผูกคอตนเองแต่ยังไม่เสียชีวิต ภายในซอยทางหลวงรังสิต และกำลังจะนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
เมื่อตนนำคนเจ็บซึ่งมาอาการสาหัสขึ้นรถฉุกเฉินและขับออกมาโดยใช้ถนนพหลโยธินขาออกช่องด่วน พร้อมทั้งเปิดสัญญาณไฟไซเรนและสัญญาณเสียงขอทาง เพื่อให้รถประชาชนหลบ แต่จู่ๆ มีรถเก๋งโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ภม 5254 กรุงเทพมหานคร ขับรถขวางรถของตนเพื่อไม่ให้ขับแซง ไปจนถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งรถคันดังกล่าวก็ได้ขับมาจอดที่ด้านหน้ารถของตน ตนก็ลงไปถามว่าทำไมไม่หลบรถฉุกเฉินเพราะตนจะนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล
จากนั้นคนขับซึ่งเป็นชายวัยกลางคนก็ได้หยิบขวานที่อยู่ในรถจะมาทำร้ายตน ก่อนมาแจ้งความดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเรียกตัวชายคนดังกล่าวมาสอบปากคำ ก่อนดำเนินการต่อไป
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ประสานไปยังคนขับรถเก๋ง ทะเบียน ภม 5254 กรุงเทพมหานคร ทราบว่า คนขับชื่อนายประสาน ประสงค์โชคนำชัย อายุ 56 ปี เล่าว่า
“เรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด ตนไม่ได้ขวางรถกู้ภัย ชี้แจงว่า ตนเองขับรถอยู่เลนซ้ายสุด เพื่อจะมาหาลูกที่รักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เช่นกัน ซึ่งขณะนั้นเห็นรถกู้ภัยอยู่ข้างหลัง และตนได้เบี่ยงซ้ายให้รถกู้ภัยขึ้นหน้า โดยไม่คิดว่ารถกู้กัยจะเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล เลยมาประจบตรงทางเข้าโรงพยาบาลพร้อมกัน”
“จากนั้นรถกู้ภัยไปจอดหน้าห้องฉุกเฉินส่งผู้ป่วย ซึ่งตนไปจอดรถตรงลานหน้าห้องฉุกเฉินเพื่อมาหาลูกและรับภรรยากลับ แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินมาต่อว่าตนที่รถ พร้อมชี้หน้า ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ และท้าตีท้าต่อย ทำให้โมโห หยิบขวานในรถ ที่เดิมพกไว้ใต้เบาะรถเพื่อป้องกันตนเอง เพราะไปต่างจังหวัดบ่อยครั้งในเวลายามวิกาล ซึ่งเอาออกเพื่อป้องกันตัวเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกคนมาห้าม ก็ยุติการทะเลาะกัน’
ในวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ติดต่อไปยังนายประสาน คนขับรถเก๋งให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาขับรถกีดขวางหรือไม่เปิดทางให้รถฉุกเฉิน ตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งทางนายประสานได้ติดต่อกลับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ขวาง โดยพนักงานสอบสวนได้นัดเจ้าหน้าที่กู้ภัยและนายประสานมาไกล่เกลี่ยกันเพื่อหาข้อสรุปต่อไป
