ลุงวัย 61 ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เงินจากการเกษียณอายุ ให้เมียเก็บ 1 ล้าน เหลือติดตัว 1.5 แสน แต่มีคนมายืมแล้วไม่ใช้คืน จนเงินหมด คิดมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า สุดท้ายใช้เถาวัลย์ผูกคอดับ
วันที่ 7 พ.ค. 62 ร.ต.อ.ณภัทร สุทธิธนากูล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตใต้ต้นไม้บ้านหนองม่วง ต.ถนนหัก อ.นางรอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ฯ
ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่ พบศพนายอุดม วังพา อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 12 บ้านหนองม่วง ต.ถนนหัก อ.นางรอง นอนเสียชีวิตในลักษณะที่ลำคอมีเถาวัลย์พันรอบคอ นอกจากนี้ยังพบขวดยาฆ่าหญ้า 1 ขวด คาดเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
สอบถามนางสมหวัง วังพา อายุ 53 ปี ภรรยาผู้ตาย มีอาชีพขายไข่เค็มและผักสดที่ตลาดเทศบาลนางรอง เล่าว่า สามีเพิ่งเกษียณงานจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อเดือน ต.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยได้เงินจากการเกษียณอายุมากว่า 1,000,000 บาท สามีแบ่งให้ตนเก็บไว้ 1,000,000 บาท ส่วนที่เหลือประมาณ 150,000 บาท สามีขอเก็บติดตัวไว้
จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.พ. 62 สามีตนเกิดอาการเครียด พร้อมพูดขึ้นว่าเงินกว่า 150,000 บาทหมดแล้ว มีแต่คนมาขอยืมเงิน แต่ไม่ได้คืน รู้สึกเสียดาย เพราะกว่าจะหามาได้ทั้งชีวิต ตนได้แต่ปลอบใจบอกไม่ให้คิดมาก หาใหม่ก็ได้
ตั้งแต่นั้นมานายอุดม ก็เริ่มมีอาการเครียด พูดถึงเรื่องความตาย ว่าถ้าตายแล้วจะอยู่กันได้ไหม ในช่วง 2 เดือนน้ำหนักสามีลดลงมากว่า 20 กิโลกรัม เพื่อนแต่ละคนที่มาเยี่ยมก็ทักว่าร่างกายทรุดโทรม ดูแทบไม่ได้ ยิ่งทำให้สามีเกิดอาการซึมเศร้าเพิ่มไปอีก
นางสมหวัง กล่าวว่า ตนและลูกพยายามดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้สามีอยู่คนเดียว กระทั่งตอนเช้าตนออกมาขายของตามปกติ ให้ลูกชายคนเล็กนอนเป็นเพื่อนพ่อ ต่อมาลูกชายหาพ่อไม่เจอจึงไปเดินไปดูหลังบ้าน มองเห็นพ่อนอนอยู่ใต้ต้นมะขามรีบเข้าไปดู พบว่าเป็นศพแขวนคอด้วยเถาวัลย์อยู่ใต้ต้นมะขาม
นางสมหวัง เล่าด้วยว่า ที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เพราะสามีจะได้เงินเดือนจากประกันสังคมอีกเดือนละ ประมาณ 4,000 บาท ส่วนสาเหตุคาดว่าสามีเกิดความเครียดที่มีคนมายืมเงินแล้วไม่คืน ประกอบกับไม่มีอะไรทำหลังเกษียณจึงคิดมาก จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนจะฆ่าตัวตายดังกล่าว
