“ลุงสูงสรร” ยินดี “วอชด็อกฯ” แจ้งความ บอกถ้าลูกชายขับรถไล่ชนสุนัขจริงจะได้ส่งไปบำบัด

 ประเด็นคือ – วอชด็อกฯ ออกโรงแจ้งความ เชื่อรถบ้านลุงสูงสรรขับไล่ชนสุนัขอีกแล้ว ด้านลุงยินดี ถ้าลูกทำจริงจะได้ส่งไปบำบัด ถ้าวอชด็อกไม่มีสิทธิ์แจ้งจะได้ไปตามเจ้าของสุนัขให้มาแจ้งความ

วันที่ 2 ต.ค. 60 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รินรดา ธนูศร อายุ 30 ปี ตัวแทนเพจ WATCH DOG THAILAND หรือ วอชด็อก ไทยแลนด์ (เครือข่ายประชาชนต่อต้านการค้าสัตว์ข้ามชาติ และการทารุณกรรม) เดินทางมาที่ สภ.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.กุญชร บุญศิริเภสัช ร้อยเวร สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับกรณีเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา มีรถกระบะต่อตู้ทึบขับไล่ชนสุนัข บริเวณถนนสุดบรรทัด ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งรถกระบะดังกล่าวคาดว่าจะเป็นของ “นายสูงสรร ปิ่นป่าสักทองคำ” ที่เคยขับรถทับสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ (เจ๊าะแจ๊ะ) เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ น.ส.รินรดา (พลอย) ได้เตรียมหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในข้อหาทารุณกรรมสัตว์

น.ส.รินรดา กล่าวว่า ที่มาในวันนี้มาเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อที่จะเข้ามาแจ้งความเหตุการณ์ทารุณกรรมสัตว์ โดยจะแจ้งความในครั้งนี้ 3 คดีด้วยกันคือ

คดีที่ 1 เหตุการณ์ที่ชนสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ (เจ๊าะแจ๊ะ) บริเวณตลาดสดเทศบาลแก่งคอย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ส่วน คดีที่ 2 คือ คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านธนรุ่งเรือง โดยเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 60 ซึ่งเกิดก่อนที่จะเกิดเหตุชนเจ้าเจ๊าะแจ๊ะ

และ คดีที่ 3 คือ คลิปล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 60 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น คาดว่ารถที่ขับชนสุนัขทั้งสามเหตุการณ์เป็นรถของ “นายสูงสรร ปิ่นป่าสักทองคำ”

น.ส.รินรดา ธนูศร ตัวแทนเพจ WATCH DOG THAILAND

ในขณะเดียวกัน นายสูงสรร ปิ่นป่าสักทองคำ ได้เดินทางมายัง สภ.แก่งคอย โดยกล่าวว่า ในวันนี้ได้เข้ามาเพื่อสอบถามว่า วอชด็อกฯ นั้นมีสิทธิ์ไหมในการมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งถ้าไม่มีสิทธิ์ก็จะได้ไปตามเจ้าของสุนัขพันธุ์ไทยชื่อ “เจ้าทองม้วน” ให้มาแจ้งความดำเนินคดี เพราะว่าเจ้าของสุนัขไม่ได้แจ้งความเอาเรื่อง แต่ในเมื่อ “วอชด็อกฯ” มีสิทธิ์ ก็เป็นผลดีกับตัวเอง จะได้มีผลทางกฎหมาย เพราะทางวอชด็อกฯ แจ้งความทางด้านอาญา ไม่ใช่ทางแพ่ง บอกว่ายินดีที่มาแจ้งความ เพื่อที่จะได้นำลูกชายของตนเองไปบำบัดทางจิต

นายสูงสรร ปิ่นป่าสักทองคำ

แต่ทั้งนี้ทางนายสูงสรรก็ยังไม่ยอมรับว่าลูกชายเป็นคนขับรถไล่ชนสุนัข โดยกล่าวว่า ตนไม่รู้จริงๆ ถามเขาก็ไม่รู้เรื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้นำรถคันดังกล่าวมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนายสูงสรรกล่าวว่า ตำรวจบอกว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่มีเยอะ เพราะดูจากคลิปแล้วภาพมันเบลอ อยากให้ทางด้านกฎหมายช่วย เพื่อจะได้นำตัวลูกชายไปรักษาสิ่งที่มันขาดๆ  โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่ได้เข้ามาช่วยลูก แต่มาช่วยให้หนัก อยากให้แจ้งความ จะได้เอาลูกไปบำบัด”

พ.ต.ท.กุญชร บุญศิริเภสัช ร้อยเวรเจ้าของคดี

ทางด้าน พ.ต.ท.กุญชร บุญศิริเภสัช ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนอะไร หรือหนักใจอะไร และไม่ยากต่อการทำสำนวนคดีความ ซึ่งทางด้านนายสูงสรรกำลังจะเอารถมามอบให้ตรวจสอบ เพื่อตรวจดูร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ตัวรถ และให้ผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อที่จะดำเนินคดีต่อไป

พยานชี้จุดเกิดเหตุ