ประเด็นคือ – สรุปผลสอบข้อเท็จจริงกรณีหัวหน้าวิเชียร และผอ.กาญจนา อนุญาตให้เปรมชัยเข้าป่าทุ่งใหญ่ เป็นไปตามหน้าที่ ขณะผลตรวจสอบคดีงาช้าง 2 คู่ พบเป็นงาช้างแอฟริกา ผิดข้อหาครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง
วันที่ 28 ก.พ.2561 ในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามคดีลักลอบล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี นัดแรก ภายใต้คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมกับคณะกรรมการ 12 คน โดยนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ได้เดินทางพร้อมนำเอกสารต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลกับคณะอนุกรรมการฯ ในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตทุ่งใหญ่
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า พอมีคดีเกิดขึ้นคนกังวลคนรวยทำผิดแล้วจะผิดหรือไม่ ยืนยันว่าคนทำผิด ผิดกฎหมายหมด ตามครรลองของกฎหมาย และคดีนี้มีอะไรเพิ่มเติมจากที่ผ่านมา ประเด็นที่เราตามมา โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับกระทรวงฯ เช่น ที่ดินภูเรือ จ.เลย ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการ
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ กรมอุทยานฯ รายงานความคืบหน้าผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าที่ได้รับจากพนักงานสอบสวน โดยเฉพาะผลการตรวจสอบชิ้นเนื้อสัตว์ป่าที่พบในที่เกิดเหตุ ลำไส้ ขน และกระดูกท่อนหางเสือ เบื้องต้นพบว่าชิ้นส่วนทั้งหมดเป็นเสือดำจริง และเป็นชิ้นส่วนของเสือดำตัวเดียวกัน
ขณะที่ผลการตรวจสอบงาช้าง 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านของนายเปรมชัย เมื่อวันที่ 7 ก.พ. สรุปว่าเป็นงาช้างแอฟริกา
และสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และนายวิเชียร กรณีการอนุญาตให้เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ปรากฎว่าทั้ง 2 คนไม่มีความผิด การอนุญาตเข้าพื้นที่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ เป็นคนละส่วนกับกรณีที่นายเปรมชัย และพวกเข้าไปแล้วไม่ได้อยู่ในจุดที่ได้รับอนุญาต และไปล่าเสือดำและสัตว์ป่า ถือเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ ซึ่งนายวิเชียร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้ทำการจับกุมตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงไม่ใช่การละเลยต่อหน้าที่
ส่วนคดีการครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่ที่ยึดได้จากบ้านนายเปรมชัย สรุปว่ามีความผิด ฐานครอบครองซากสัตว์ป่า หลังจากนี้จะใช้เวลาตามขั้นตอน ยึดงาช้างเป็นของแผ่นดินภายในเวลา 1 สัปดาห์ และเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
