จนท.เขตประเวศ ตรวจป้ายหน้าบ้าน “ป้าทุบรถ” ว่าต้องเสียภาษีหรือไม่

จนท.เขตประเวศ ตรวจป้ายหน้าบ้าน “ป้าทุบรถ” ว่าต้องเสียภาษีหรือไม่

ในประเทศ

วันนี้มี จนท.เขตประเวศ มาถ่ายรูป “ป้ายหน้าบ้าน” ตรวจสอบว่าป้ายดังกล่าวต้องเสียภาษีหรือไม่ ในขณะที่ หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี อาสาออกเงินค่าซ่อมรถกระบะแทนป้าทุบรถ เผย เข้าใจหัวอกทั้งสองฝ่าย ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายปรับความเข้าใจกัน ด้านแม่ค้าตลาดร้อง หากปิดตลาดจริง หลายชีวิตต้องลำบาก 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดสดภายในซอยศรีนครินทร์ 55 ถนนหมู่บ้านเสรีวิลล่า แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ บรรยากาศซบเซา มีรถยนต์จอดริมถนนภายในระยะเวลาที่สามารถจอดได้

จากการตรวจสอบโดยรอบพบว่า ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ปิดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ในส่วนของตลาดรุ่งวาณิชย์มีการนำป้ายชื่อตลาดออกไป ส่วนตลาดร่มเหลืองโดยปกติจะเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

https://youtube.com/watch?v=j3KqRyJfYCE

น.ส.ปราชญาภันต์ ล้อประเสริฐ อายุ 44 ปี แม่ค้าน้ำพริกในตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต เปิดเผยว่า “โดยปกติแล้ว ตลาดทั้งหมดจะเปิดในช่วงเช้าของทุกวัน ยกเว้นตลาดร่มเหลืองที่เปิดเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์

ตั้งแต่วันจันทร์ (19 ก.พ.61) ที่ผ่านมา คนมาเดินตลาดน้อยมาก อาจเป็นเพราะว่าคนเข้าใจว่าตลาดปิดแล้วทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากตลาดต้องปิดจริงผู้ค้าอีกหลายร้อยชีวิตต้องได้รับความเดือดร้อน เพราะหลายคนตลาดแห่งนี้คือที่ทำกินที่เดียวที่มีอยู่ต่อ”

ผู้สื่อถามสอบถามต่อว่า จริงหรือไม่ที่มีกลุ่มแม่ค้าในตลาดสงสัยว่าเหตุดังกล่าวเป็นการจัดฉากขึ้น น.ส.ปราชญาภันต์ กล่าวว่า “ตอนแรกตนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่มีการจับกลุ่มวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวในลักษณะนี้จริง โดยจะวิจารณ์หญิงเจ้าของรถกระบะว่า ทำไมถึงตอบคำถามออกมาในลักษณะถึงความไม่รับผิดชอบของตัวเองจนทำให้สังคมตำหนิอย่างรุนแรง แต่ตนเองก็ไม่อยากวิจารณ์อะไรมาก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกฟ้องหมิ่นประมาท”

ซึ่งวันนี้ มีนายสุวิจักขณ์ ทองสนิท อายุ 43 ปี เดินทางมาที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 37/208  ซ.ศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ซึ่งเป็นบ้านของ 3 ป้าทุบรถ (นางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ และนางสาวมณีรัตน์ แสงหยกตระการ) เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเสนอตัวชดใช้ค่าเสียหายแทนป้าทุบรถ

โดยนายสุวิจักขณ์ เผยว่า “ตนเป็นตัวแทนจาก SOS – Thailand ซึ่งเป็นระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน เห็นข่าวก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากตนก็เคยจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นและก็เคยถูกจอดขวางหน้าบ้านตัวเองเหมือนกัน จึงมองว่าเหตุการนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิของตนของตนและของผู้อื่น

ดังนั้นถ้ามีใครซักคนเข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายที่ถูกทุบรถ เพื่อให้คู่กรณีสามารถปรับความเข้าใจกันได้ เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่ โดยตนเองจะรับผิดชอบค่าเสียหายแทนป้า 5 หมื่นบาท กับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ต้องเป็นคดีความ”

ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่จากเขตประเวศ ได้เดินมาถ่ายรูปที่บริเวณหน้าบ้าน น.ส.บุญศรี โดยระบุเพียงว่า “ตนได้รับแจ้งมาว่าให้ตรวจสอบว่า ป้ายคำพิพากษาที่ติดหน้าบ้าน น.ส.บุญศรี จะต้องเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไป เมื่อถามว่าใครเป็นผู้แจ้งมา ทางเจ้าหน้าที่กล่าวเพียงว่าไม่ทราบ แต่ได้รับแจ้งมา ซึ่งทางเขตก็ส่งตนมาเก็บภาพเป็นหลักฐานเพื่อการตรวจสอบต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง