ประเด็นคือ – ดีเอสไอ เตรียมกำหนดแนวทางทวงคืนที่ดินหาดลายัน-เลพัง รวมเนื้อที่ 178 ไร่ ให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน หลังศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้รัฐชนะคดีเอกชนรายใหญ่
วันที่ 2 พ.ย.60 พ.ต.ท.มนตรี บุณยะโยธิน ผู้อำนวยการสำนักคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรม เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้สมบูรณ์ ในการนำที่ดินจากผู้บุกรุกกลับคืนให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยศาลจังหวัดภูเก็ตมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้จังหวัดภูเก็ตชนะคดีที่เอกชนรายใหญ่ที่ฟ้องหน่วยงานรัฐเป็นจำเลย กรณีออกประกาศที่ดินริมหาดลายัน-เลพัง หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ต่อเนื่องกันเป็นที่สาธารณะ รวมเนื้อที่ 178 ไร่ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท โดยให้โจทก์กับบริวารออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีการพิสูจน์ชัดเจนว่าหาดลายัน-เลพังเป็นพื้นที่สงวนหวงห้าม และให้ประชาชนได้ใช้ร่วมกัน ตามมติคณะกรรมการจัดสรรที่ดินแห่งชาติและเป็นไปตามพระราชบัญญัติที่ดิน มาตรา 20
พ.ต.ท.มนตรี บุณยะโยธิน ผู้อำนวยการสำนักคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า เพื่อป้องกันปัญหามวลชนจะเร่งดำเนินการอย่างรีบด่วนด้วยความรัดกุม โดยจะกำหนดแนวทางในการแสดงแนวเขตพื้นที่ให้ชัดเจน จากนั้นจะประกาศให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน และแจ้งให้ผู้ที่ยังบุกรุกครอบครองที่ดินให้ขนย้ายสิ่งของต่างๆ ออกไปตามระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับที่ดินหาดลายัน-เลพัง มีการแสดงสิทธิการครอบครอง จำนวน 9 ราย กลุ่มบุกรุกมี 3 ลักษณะ คือ กลุ่มแรกเป็นบุกรุกเพื่อประกอบการสำหรับบริหารนักท่องเที่ยว กลุ่มที่ 2 เป็นนอมินีเข้ายึดและแสดงสิทธิในการครอบครอง และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ครอบครองเดิม หลังจากทวงคืนพื้นที่ได้แล้ว อบต.เชิงทะเล จะจัดระเบียบชายหาดทั้งหมดของจังหวัดภูเก็ตให้กลับมาเป็นธรรมชาติเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
