ศาลนัดไต่สวน พยานคดีทหารยิงชัยภูมิ นักกิจกรรมชาวลาหู่

ศาลนัดไต่สวน พยานคดีทหารยิงชัยภูมิ นักกิจกรรมชาวลาหู่

ในประเทศ

ประเด็นคือ – ศาลเชียงใหม่นัดไต่สวนพยานคดีการตายของชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ หลังถูกทหารวิสามัญคาด่านตรวจ  ขณะทีมทนายความ เรียกร้องทหารส่งหลักฐานกล้องวงจรปิดเพื่อไขปมการตาย

ความคืบหน้าคดี นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมชาวลาหู่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมที่บริเวณด่านตรวจถาวรบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังทหารประจำด่านระบุว่า นายชัยภูมิต่อสู้ขัดขืนการจับกุมและจะขว้างระเบิดใส่ ขณะที่การตรวจค้นภายในรถยนต์ของนายชัยภูมิ พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 60

ล่าสุดวันที่ 13 มี.ค. 61 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นัดไต่สวนพยานในคดีการเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส ขณะที่นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความจากศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น และหัวหน้าทีมทนายความคดีนายชัยภูมิ ป่าแส เปิดเผยว่า คดีไต่สวนการเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำสืบพยาน ซึ่งวันนี้จะมีการสืบพยานในส่วนของอัยการ คาดว่าจะมีการนำนายพงศนัย แสงต๊ะหล้า เพื่อนนายชัยภูมิ ป่าแส ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องและกันไว้เป็นพยาน เพื่อให้การในชั้นศาล

สำหรับสิ่งที่ทีมทนายความกังวลคือวัตถุพยานจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ที่ได้ร้องขอต่อศาลให้แนบมาในสำนวนการสืบพยานในครั้งนี้ แต่เมื่อตรวจดูสำนวนแล้วกลับไม่พบว่ามีการแนบหลักฐานดังกล่าวเข้ามา

นายสุมิตรชัย กล่าวอีกว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นด่านตรวจมีกล้องวงจรปิดหลายตัว จึงเชื่อว่าน่าจะมีกล้องบางตัวที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุไว้ได้ และที่ผ่านมาฝ่ายทหารเองก็ออกมาให้ข่าวผ่านสื่อว่าเห็นภาพจากกล้องแล้ว แต่จะไม่นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน โดยจะนำภาพจากกล้องวงจรปิดส่งในชั้นศาลแทน แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดแนบอยู่ในสำนวนการสืบพยาน

ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับแจ้งว่า ไม่มีภาพอยู่ในฮาร์ดดิสก์ของกล้องวงจรปิด ซึ่งค้านกับคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง ที่เคยออกมาให้ข้อมูลว่าเห็นภาพแล้ว

ส่วนพยานแวดล้อมที่ได้มีการสอบสวนไปก่อนหน้าที่ ทางอัยการได้ตัดออกจากการเป็นพยานทั้งหมด เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 3 นาย , นายพงศนัย แสงต๊ะหล้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสอบสวนคดี โดยพยานที่ถูกตัดออก คือเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในบริเวณด่านจำนวน 7 นาย และชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์

นายสุมิตรชัยระบุว่า โดยส่วนตัวเห็นว่า อัยการน่าจะนำพยานที่สอบทั้งหมดมาให้การในชั้นศาล เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติฝ่ายผู้เสียหายได้มีโอกาสซักถาม ขณะนี้ได้มีการทำหนังสือ ยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มีการนำพยานที่ถูกตัดออกไปเข้ามาให้การในชั้นศาล ถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายที่ทีมทนายได้ดำเนินการ

ด้านนางนาปอย ป่าแส แม่ของ นายชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานกว่า 1 ปีแล้วแต่ยังรู้สึกหวาดกลัว และไม่เชื่อว่าลูกชายจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งมั่นใจว่าลูกชายตนไม่มีระเบิดอยู่กับตัวด้วย

หมายเหตุ : ภาพหน้าปก จาก FB : เทพวุธ บัวทุม โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า “#10มีนา #ครบ1ปี #ชัยภูมิ #หนึ่งในหลายๆความตายที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ปล. บางทีก็รู้สึกเศร้าๆ ปนหดหู่นะ ที่เอากระแสยำตีนเปรมชัย การตายของเสือดำ มาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนที่ตาย(s)เพราะอำนาจรัฐ”

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง