
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สรุปสถานการณ์น้ำและพื้นที่เสี่ยงสำคัญ ระบุน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝนตกเพิ่มขึ้น อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 31 จังหวัด สั่งเฝ้าระวังระดับน้ำริมโขง
วันที่ 10 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำในพื้นที่เสี่ยง โดยศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ได้ระบุว่า ในวันที่ 10-15 ส.ค. 61 การกระจายของฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ที่ลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี ยังคงมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนแก่งกระจานอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเริ่มทรงตัวและลดลงตามลำดับ หากไม่มีปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนในช่วงนี้ น้ำจากเขื่อนยังคงไหลผ่านทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งบริเวณ อ.ท่ายาง อ.บ้านแหลม

แม่น้ำสายสำคัญในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีระดับน้ำน้อย ภาคกลางและใต้มีระดับปานกลางถึงน้ำมาก
สถานการณ์ฝน วันที่ 10-15 ส.ค. 61 ประเทศไทยและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่ง และวันนี้ (10 ส.ค.) มีฝนตกเพิ่มขึ้น อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้ในพื้นที่เฝ้าระวัง 31 จังหวัด ได้แก่
ภาคเหนือ : เชียงราย พะเยา น่าน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และนครสวรรค์
ภาคตะวันออก : ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : ระนอง และพังงา

สถานการณ์น้ำที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พื้นที่เฝ้าระวังและเสี่ยงน้ำท่วม คือ ริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี
พื้นที่เฝ้าระวังจากการเร่งระบายน้ำ คือ อ่างขนาดใหญ่ที่มีระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุม 8 แห่ง และอ่างฯ ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80 % โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนวชิราลงกรณ ปราณบุรี และเขื่อนน้ำอูน รวมถึงอ่างขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาณน้ำ 100 %









