
ประเด็นคือ – สงขลาจัดงบกว่า 1 แสนบาท สร้างสถานที่พักพิงสุนัขจรจัด ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าระบาด หลังตรวจพบมีสุนัขติดเชื้อ พร้อมคุมกำเนิด ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม วอนคนรักสัตว์ประเมินตัวเองก่อนเลี้ยง
วันที่ 4 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจาก นายนฤทธิรงค์ นพรัตน์ สัตวแพทย์อาวุโส เทศบาลเมืองสะเดาว่า เทศบาลเมืองสะเดาได้จัดงบประมาณกว่า 1 แสนบาท ในการก่อสร้างสถานที่พักพิงสุนัขจรจัดขึ้นในพื้นที่ บริเวณบ่อขยะของเทศบาลเมืองสะเดา โดยสร้างเป็นโรงเรือนขนาด 4 คูณ 15 เมตร กั้นเป็นคอกๆ สามารถขังสุนัขได้ประมาณ 20 ตัวต่อ 1 คอก

ซึ่งสาเหตุที่ได้จัดสร้างที่พักพิงสุนัขจรจัดขึ้นนั้น เนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้ตรวจพบสุนัขในวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบติดเชื้อโรคสุนัขบ้า จึงคิดหาวิธีป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่า แต่ละวัดมักจะมีสุนัขและแมวที่ถูกนำไปทิ้งให้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงจัดสร้างสถานที่พักพิงสุนัขจรจัดขึ้น เบื้องต้น จะนำสุนัขที่อยู่ในวัดไปเลี้ยงหรือกักขังก่อน แล้วตามด้วยสุนัขจรจัดตามสถานที่สาธารณะอื่นๆ ซึ่งจากข้อมูลคาดว่าจะมีสุนัขจรจัด หรือที่ถูกทอดทิ้งนับร้อยตัว
นอกจากนี้ สุนัขที่นำมาเลี้ยงไว้ที่นี้ทุกตัว จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และฉีดยาคุมกำเนิด ส่วนอาหารจะนำมาจากวัดมาให้สุนัขกินวันละ 1 มื้อ ทั้งนี้ หากสุนัขมีจำนวนมากขึ้นจนเกินกำลังที่ทางเทศบาลจะดูแลได้ ก็จะประสานกับปศุสัตว์อำเภอ และปศุสัตว์จังหวัด เพื่อนำไปควบคุมดูแลโดยกรมปศุสัตว์ ในสถานที่ที่กำหนดไว้ต่อไป

ด้านนางสมยา หวังจิ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสะเดา เปิดเผยว่า การทิ้งสุนัขมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งทางเทศบาลก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนนำสุนัขและแมวที่เลี้ยงไว้ ไปขึ้นทะเบียนที่เทศบาลให้เรียบร้อย ซึ่งจะเริ่มรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับสังคม ด้วยการนำสุนัขไปทิ้ง หรือปล่อย
โดย นางสมยา ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่คิดจะเลี้ยงสุนัขต้องประเมินตัวเองก่อนว่า เราจะสามารถเลี้ยงได้ตลอดหรือไม่ ไม่ใช่แค่เห็นตัวเล็กๆ น่ารัก ก็เลยนำมาเลี้ยง พอโตขึ้นอาจไม่สวยไม่น่ารัก จึงนำไปปล่อยทิ้ง ซึ่งนอกจากจะเป็นปัญหาโดยรวมแล้ว ยังเป็นบาปอีกด้วย เพราะเมื่อสุนัขถูกนำไปปล่อยอาจถูกทำร้าย ถูกวางยา หรือโดนรถชนจนทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น










