
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์พายุปาบึกที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ ขณะนี้ยังคงมีการเร่งอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง ส่วนโรงเรียนที่อยู่ติดริมทะเลส่วนใหญ่ปิดเรียนชั่วคราวในวันพรุ่งนี้
วันที่ 3 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สงขลา โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ระโนด เจ้าหน้าที่ได้ทยอยอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมทะเลทั้ง 5 ตำบล ออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากคาดการณ์ว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก เพราะเป็นพื้นที่รอยต่อกับ จ.นครศรีธรรมราช
ขณะนี้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ติดริมทะเลทั้ง 5 ตำบลของ อ.ระโนด ที่เริ่มมีการอพยพออกจากบ้านไปอยู่ในศูนย์อพยพที่แต่ละตำบลกำหนดไว้ ทั้ง ต.ท่าบอน ต.ปากแตระ ต.คลองแดน ต.ระวะ และ ต.บ่อตรุ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก โดยใช้สถานที่ทั้งวัด โรงเรียน และ อบต.เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว

โดยเฉพาะที่ ต.ท่าบอน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมทะเลจำนวน 6 หมู่บ้าน จากทั้งหมด10 หมู่ของ ต.ท่าบอน ได้หอบหมอนหอบเสื่อพากันไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ ทั้งที่ อบต.ท่าบอน โรงเรียนท่าบอน และที่วัดศาลาหลวงล่าง ซึ่งทาง อบต.ท่าบอน ได้จัดรถไปรับถึงบ้าน และยังคงทยอยอพยพมาอย่างต่อเนื่อง
นางแสนสุข เกื้อเพชร อายุ 62 ปี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่3 ต.ท่าบอน เปิดเผยว่า ครอบครัวทั้งหมด 6 ชีวิต ต้องรีบอพยพมาอยู่ที่ อบต.ท่าบอน เพราะบ้านอยู่ติดริมทะเล และคลื่นลมเริ่มมีกำลังแรงขึ้น กลัวจะไม่ปลอดภัย
แต่ก็ยังมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัวที่ยังไม่อพยพ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย เช่น นายสมนึก แซ่พั่ว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าบอน กล่าวว่า กลุ่มผู้ชายส่วนใหญ่ยังคงอยู่เฝ้าบ้านเพื่อรอดูสถานการณ์ ซึ่งสภาพคลื่นลมขณะนี้แม้จะแรงขึ้น แต่ก็ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ เมื่อเทียบกับคลื่นตามธรรมชาติในช่วงฤดูมรสุม แต่ก็ต้องเฝ้าติดตามประกาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อความไม่ประมาท

ทั้งนี้ แผนการเตรียมอพยพของ จ.สงขลา ทางจังหวัดได้มีการเตรียมศูนย์อพยพไว้ 44 จุด รองรับประชาชนได้กว่า 4 หมื่นคน
ในขณะที่โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดชายทะเลของ จ.สงขลา ทั้ง อ.เมือง สิงหนคร สทิงพระ และ อ.ระโนด ในวันนี้ส่วนใหญ่เรียนครึ่งวัน และในวันพรุ่งนี้ประกาศหยุดเรียน 1 วัน ไปเปิดเรียนอีกครั้งในวันจันทร์เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน









