
ประเด็นคือ – สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ยังมีระดับน้ำสูง ที่ชัยนาท ชาวบ้านต้องเร่งยกของขึ้นสูงหนีน้ำ อยุธยา เร่งวางแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำซัดกระแทกโบราณสถาน ส่วนที่ปทุมธานี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
วันที่ 9 ต.ค. 60 ทีมข่าวนำอากาศยานไร้คนขับขึ้นบินสำรวจในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใน ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พบว่าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา นอกแนวกันน้ำกำลังถูกน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะชุมชนวัดไผ่ล้อม หมู่ที่ 2 และชุมชนวัดมะปรางหมู่ที่ 5 ที่ประชาชนต้องเร่งยกของหนีน้ำขึ้นสู่ที่สูง และออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทราย ทำเป็นแนวกั้นน้ำที่เอ่อล้นข้ามถนนเข้าชุมชน โดยบางจุดน้ำท่วมสูงกว่าครึ่งล้อรถยนต์ หรือ 50 ซม. เจ้าหน้าที่ต้องปักป้ายห้ามรถจักรยานยนต์ผ่านเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้
ซึ่งในส่วนของโซนพื้นที่ริมตลิ่งพบว่า ชาวบ้านเริ่มใช้ชีวิตประจำวันอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องของยุง แมลงและสัตว์มีพิษ ที่เริ่มหนี้น้ำขึ้นสู่ที่แห้งและเข้าบ้านเรือนประชาชน ที่จำเป็นต้องตีให้ตายไปวันละหลายตัว มีชาวบ้านถูกสัตว์มีพิษอย่างแมลงป่องต่อยได้รับบาดเจ็บวันละหลายราย ยิ่งในเวลากลางคืนยุงจะชุมกว่าสถานการณ์ปกติหลายเท่าตัว สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ส่วน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่โบราณสถานป้อมเพชร นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร จำนวน 100 คน เร่งวางแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำซัดกระแทกโบราณสถานป้อมเพชร โดยหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อน มวลน้ำทั้งหมดจะมารวมกันที่บริเวณโบราณสถานป้อมเพชรที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำเริ่มไหลเข้าสู่ตัวโบราณสถาน จำเป็นต้องวางแนวกระสอบทรายกว่า 1,500 กระสอบ สูง 60 ซม. เพื่อป้องกันน้ำกระแทกโบราณสถานได้รับความเสียหาย ซึ่งหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็จะนำกระสอบทรายมาวางเพิ่ม

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าหลายวัดที่อยู่รอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบแล้ว โดยระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งในฝั่งเกาะเมืองประมาณ 1 เมตร แต่ได้เอ่อเข้าท่วมวัดต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหลายวัด เช่นวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำที่สูงขึ้นเข้าท่วมพื้นสนามหน้าวัดเข้าไปเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร
ขณะเดียวกันที่วัดท่าการ้อง ซึ่งอยู่ใกล้กัน ก็มีการเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปที่อยู่ริมแม่น้ำขึ้นที่สูงบ้างแล้ว ขณะที่ตลาดน้ำซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางวัดเตรียมประกาศหยุดหากน้ำขึ้นเกิน 50 ซ.ม. เพื่อความปลอดภัย ซึ่งหลายวัดบอกว่าชลประทานไม่มีความชัดเจนในการระบายน้ำ หรือแจ้งข่าว ทำให้ต้องขนของย้ายกัน 6 รอบแล้ว

ขณะที่ สถาณการณ์น้ำของ จ.ปทุมธานี นายปัญจพล เพียรพานิช หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา โครงการชลประทานปทุมธานี ตระเวนสำรวจพื้นที่จากผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกในวันนี้ โดยปริมาณน้ำผ่านจุดตรวจวัดสถานีบางไทร 2,160 ลบ.ม. ต่อวินาที มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
ทำให้สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานี อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้ย้ายที่ทำการใหม่ ไปอยู่ที่บริเวณทางเข้าวัดเสด็จ ติดกับองค์การบริหารส่วนตำบลสวนพริกไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป









