นนทบุรี สภาการพยาบาลแถลงข่าวขอโทษกรณีคลิปพยาบาลทำรุนแรงผู้ป่วยสอบสวนจริยธรรม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (26 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยศาสตรจารย์ อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล และรองศาสตราจารย์ ดร.อรพรรณ โตสิงห์ ประชาสัมพันธ์ สภาการพยาบาล แถลงข่าวกรณีผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลปฏิบัติไม่เหมาะสมต่อผู้ป่วย ขณะที่พยาบาลเข้ามาดูแลชายผู้ป่วยติดเตียงโรคถุงลมโป่งพอง อายุกว่า 90 ปี โดยกระทำกับผู้ป่วยในลักษณะจับร่างดึงขยับตัวอย่างแรง ก่อนจะโยนผ้าห่มใส่ใบหน้า และเอาไปรองที่ศีรษะ ซึ่งมีผู้ที่ถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก ไว้ได้ โดยสภาการพยาบาลขอแสดงความเสียใจต่อผู้ป่วยและครอบครัว และขอโทษต่อประชาชนที่เกิดเหตุการณ์ทำให้เกิดความกังวลใจ ไม่สบายใจต่อการดูแลของพยาบาล ในฐานะของสภาการพยาบาลที่มีหน้าที่กำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์นั้น มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และได้รับรายงานจากรพ.ที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งจะทำการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขและพิจารณาตรวจสอบการทำงานของพยาบาลคนนั้น และจะดำเนินการตามขั้นตอนในกระบวนการสอบสวนทางจริยธรรม และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้อง และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ผู้ช่วยศาสตรจารย์ อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล
“สภาการพยาบาลขอยืนยันว่า ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลมีความมุ่งมั่นและปรารถนาที่จะให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและฟื้นหายโดยเร็ว จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลและการผดุงครรภ์ทุกท่านให้ปฏิบัติตามมาตรฐานและวิชาชีพพยาบาล และหาวิธีการป้องกันเพื่อให้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ” ผู้ช่วยศาสตรจารย์ อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล กล่าว
ผู้ช่วยศาสตรจารย์ อังคณา สริยาภรณ์ เลขาธิการสภาการพยาบาล กล่าวว่า ทาง รพ.เจ้าของพื้นที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้ และไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น จะต้องมีการวิเคราะห์หาเหตุออกมา ซึ่งจะเป็นเรื่องของกระบวนการปกครองมีการสืบสวนหามูลเหตุออกมา คณะกรรมการจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องราวและส่งเข้าสภาการพยาบาลเพื่อดูว่าผู้ที่กระทำเรื่องดังกล่าวผิดจริงหรือไม่ จะมีการพิจารณาโทษเกิดขึ้น เช่นว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ บังคับงดใช้ใบอนุญาตตามมูลความผิด จากเรื่องดังกล่าวเราจะเห็นว่าคนไข้เป็นผู้ป่วยหนัก อยู่ในห้องกระจกมีมาตรฐานในความดูแลที่ต่างกัน คือต้องมีพยาบาล 1 คนต่อผู้ป่วย 4 คน เราต้องดูความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม>>>
