พล.ต.อ.สมยศ เปิดภาพยืนยันไปประชุมฟีฟ่าที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้อยู่ไทย ในวันที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ อ้างว่า พา ดร.สายประสิทธิ์ มาพบและเสนอสูตรคำนวณความเร็วรถของ บอส วรยุทธ ใหม่ไม่เกิน 80 กม./ชม. ลั่นทิ้งระยะก่อนมาเปิดข้อมูลเพื่อจะรอดูว่าใครเป็นมิตรแท้ใครเป็นศัตรู
แฟ้มภาพ
จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้คำนวณความเร็วรถเฟอร์รารี่ ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ จนเสียชีวิต ได้ 177 กม./ชม. ต่อมา ได้เปลี่ยนความเร็วรถเป็น 79 กม./ชม. โดยระบุว่า ได้รับข้อมูลการคำนวณใหม่จาก ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
พ.ต.อ.ธนสิทธิ ได้ระบุในเอกสารที่ชี้แจงต่อ กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้ว่า วันที่ 26 ก.พ. 2559 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี เจ้าของคดี เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ โดย พล.ต.อ.สมยศ แนะนำ ดร.สายประสิทธิ์ ให้กับผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางรู้จัก จนทำให้เกิดประเด็นว่าอาจจะมีการกดดันให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็วรถให้ไม่เกิน 80 กม./ชม.ตามสูตรของ ดร.สายประสิทธิ์ หรือไม่นั้น
วันที่ 20 ส.ค. 2563 หลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน พล.ต.อ.สมยศได้แสดงภาพถ่ายร่วมกับ จานนี อินฟานติโน ผู้สมัครประธานฟีฟ่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2559 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหักล้างข้อมูลของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ โดยยืนยันว่าช่วง 23-28 ก.พ. อยู่ที่ต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประชุมฟีฟ่า ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ใครพูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องจะดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ หรือไม่ อันนี้ขอยังไม่ตอบ และตนไม่เคยรู้จักกับ ดร.สายประสิทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้เลย และไม่รู้ว่าวันนั้นใครเป็นคนพา ดร.สายประสิทธิ์ไปพบผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางก็ไม่ทราบเช่นกัน บอกได้แค่ว่าตนไม่ได้อยู่หรือไม่ได้ทำอะไรที่ปรากฏตามคำกล่าวอ้าง
เมื่อถามว่าในอดีตเคยมีปัญหาขัดแย้งกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ ตอบว่า ตนไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น แค่ขอฝากสื่อให้เกิดความกระจ่างในข้อเท็จจริง
“ผมรอวันนี้รอให้สังคมพิพากษาผม หรือคิดกันเอง เดากันไปเอง จนกระทั่งมีวันนี้ ก็ต้องขอบคุณคณะกรรมการชุดนี้ที่เปิดเวทีให้ผมพิสูจน์ตัวเอง”
อดีต ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า สำหรับใครที่ทำอะไรต้องพึงระมัดระวังและต้องรับผิดชอบ เพราะเมื่อเป็นข่าวไปแล้วถูกสังคมพิพากษา ตนเองและครอบครัวก็ได้รับผลกระทบตรงนี้ เพราะทุกคนมองว่าตนเป็นคนไม่ดี คนเลว ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ส่วนที่ทำไมทอดเวลาและเพิ่งออกมาชี้แจง พล.ต.อ.สมยศ ตอบว่า
“ผมอยากรู้จักคน ใครคือเพื่อนแท้ผมที่เข้ามาให้กำลังใจช่วยเหลือ แล้วก็จะได้รู้จักคนที่ชังผม รอซ้ำเติมผมหรือรอทำร้ายผม ซึ่งผมทน ผมรับได้กับสิ่งที่ผ่านมา เพราะผมรู้ตัวผมเองว่าผมได้ทำอะไรลงไป”
พล.ต.อ.สมยศ ยังตอบเรื่องที่ร่วมเป็น กมธ.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่รับเรื่องร้องเรียนของนายวรยุทธว่า ตนเป็น กมธ.จริงแต่แค่เข้าร่วมประชุม และได้แสดงความเห็นในฐานะ กมธ. แต่ไม่ได้ลงรายละอียด เพราะไม่มีข้อมูลและไม่ได้รู้เรื่องราว
ด้านนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กล่าวถึง กรณี พล.ต.อ.สมยศชี้แจงว่า เรารับเรื่องที่มีหลักฐานมาแสดงไว้ รวมทั้งที่บอกว่าที่อยู่ใน กมธ.สนช.จริงเพียงแค่รับฟัง แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ทั้งนี้วันนี้ครบการทำงาน 20 วันจะส่งรายงานสรุปครั้งที่ 2 ให้นายกรัฐมนตรีทราบ ตามที่กำหนดว่าให้สรุปทุก 10 วัน
