สรุปสถานการณ์ หญิงสาวซาอุฯ ถูกกักตัวที่สุวรรณภูมิ หวั่นถูกฆ่าหากส่งกลับประเทศ

สรุปสถานการณ์ หญิงสาวซาอุฯ ถูกกักตัวที่สุวรรณภูมิ หวั่นถูกฆ่าหากส่งกลับประเทศ

EXPLAINER

หญิงสาวชาวซาอุดิอาระเบียวัย 18 ปี ถูกกักตัวอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) หลังหนีมาจากครอบครัวและหวังจะไปลี้ภัยที่ประเทศออสเตรเลีย เธอเรียกร้องไม่ให้ส่งตัวกลับเพราะกลัวถูกครอบครัวฆ่า ล่าสุดเธอยังเก็บตัวอยู่ในโรงแรมภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

ราฮาฟ โมฮาเหม็ด แอล-เคนูน (Rahaf Mohammed al-Qunun) หญิงสาวชาวซาอุดิอาระเบียอายุ 18 ปี ถูกกักตัวอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอเดินทางหนีจากครอบครัว ขณะที่ท่องเที่ยวด้วยกันที่ประเทศคูเวต โดยหวังว่าจะมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศไทย เพื่อเดินทางต่อไปลี้ภัยที่ประเทศออสเตรเลีย

ทั้งนี้เธอระบุว่าต้องหนีจากครอบครัว เนื่องจากโดนครอบครัวทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งเธอได้เลิกนับถือศาสนาอิสลามแล้ว หากเธอถูกส่งตัวกลับไปหาครอบครัว เธออาจถูกทำร้ายหรือกระทั่งฆ่าตาย

แต่เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย เธออ้างว่าเจ้าหน้าที่จากสถานทูตซาอุฯ และคูเวต ได้มาพบเธอ และยึดหนังสือเดินทางรวมถึงวีซ่าเข้าประเทศออสเตรเลียไป เมื่อไม่มีเอกสารใดๆ ติดตัว ทางตำรวจไทยจึงปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าประเทศไทย

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า น.ส.ราฮาฟ อ้างว่าหนีการแต่งงานมา แต่เนื่องจากไม่มีวีซ่าเข้าประเทศไทย ทางตำรวจจึงต้องปฏิเสธไม่ให้เธอเดินทางเข้าประเทศ และมีแผนจะส่งตัวเธอกลับด้วยสายการบิน คูเวต แอร์เวย์ส ที่เธอเดินทางมา

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 11 โมงของวันนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่สายการบินคูเวต แอร์เวย์ส จะออกบินจากประเทศไทยไปประเทศคูเวต น.ส. ราฮาฟ ไม่ได้เดินทางขึ้นเครื่องไปด้วย โดยข้อมูลจากทวิตเตอร์ล่าสุดของเธอ ทำให้เห็นว่าเธอยังคงเก็บตัวอยู่ในห้องพักในโรงแรมภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และเรียกร้องอยากพบตัวแทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) แต่ทางการไทยยังไม่อนุญาตให้ตัวแทนจาก UNHCR เข้าไปพบเธอ

Samah Hadid ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกกลางของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า หากข้ออ้างที่ว่าเธอถูกยึดพาสปอร์ตไปเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวละเมิดสิทธิการเคลื่อนย้ายที่อย่างเสรี นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าทางการไทยต้องไม่ส่งตัวเธอกลับ หากมีความเสี่ยงว่าการส่งตัวเธอกลับไปยังครอบครัวจะทำให้เธอต้องเจอกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ส่วนทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมต. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีนี้ในวันนี้ โดยระบุว่าจะไม่ส่งตัวเธอไปประเทศที่สาม ส่วนทางการไทยต้องกักตัวไว้ เพราะถือว่าเข้าเมืองผิดกฎหมาย

ล่าสุดในช่วงเย็นวันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ออกมายืนยันกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า “เราจะไม่ส่งเขาไปตาย” และยืนยันว่าจะยังไม่มีการส่งตัว น.ส.ราฮาฟ กลับประเทศอย่างแน่นอน โดยขณะนี้กำลังหารือกับ UNHCR และทางสถานทูตออสเตรเลีย ในกรณีที่เธอมีความประสงค์จะขอลี้ภัยไปประเทศออสเตรเลีย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุปสถานการณ์ หญิงสาวซาอุฯ ถูกกักตัวที่สุวรรณภูมิ หวั่นถูกฆ่าหากส่งกลับประเทศ