
สะเทือนใจ 4 ชีวิตกำพร้าทันที เหตุพ่อแม่ขี่ จยย. เสยท้ายรถพ่วง เสียชีวิตคาที่ทั้ง 2 ราย หลังเพิ่งกลับมาเยี่ยมลูกสาวทั้ง 4 คน ที่ จ.อ่างทอง ขณะที่รถพ่วงคู่กรณี เผยจอดรถลงมาปัสสาวะกลางดึก ก่อนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
วันที่ 14 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ชัยมงคล เหมือนสนธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วงมีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย เหตุเกิดบนถนนเอเชีย (ขาเข้า กทม.) หลักที่ กม.64+700 ม.5 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลไชโย และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัย จ.อ่างทอง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถพ่วงยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ตัวแม่ 82-2739 กำแพงเพชร หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 82-3317 กำแพงเพชร จอดอยู่ข้างถนน โดยที่บริเวณด้านท้ายรถพ่วงพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขนร-327 สระบุรี ชนอัดติดอยู่กับท้ายรถพ่วงในสภาพพังยับเยิน บริเวณด้านหน้ารถยุบมาครึ่งคัน ใกล้กันพบศพ นายชเนศก์ บุญร้าย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/4 หมู่ที่ 3 ต.หนองปริง อ.หนองแค จ.สระบุรี และ น.ส.พลอยไพลิน เทียมศร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 9 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ที่อัดติดอยู่กับท้ายรถพ่วงในสภาพกะโหลกศีรษะแตก แขนหัก มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

จากกการสอบถาม นายกมลนที ศรีสัตย์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 12 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร คนขับรถพ่วง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถพ่วงบรรทุกมันเส้นจำนวน 30 ตัน มาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อมุ่งหน้าไปส่งยังกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนก็จอดรถข้างทางเพื่อปัสสาวะ จู่ๆ ก็ต้องตกใจ ได้ยินเสียงโครมดังสนั่น ตนจึงรีบวิ่งไปดูที่ท้ายรถก็พบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้มาชนอัดติดอยู่กับท้ายรถ และมีผู้เสียชีวิต จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

ด้าน น.ส.สำรี พิศสุวรรณ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 9 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร แม่ของ น.ส.พลอยไพลิน กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นลูกสาวและลูกเขยตน ทำงานขับรถส่งของอยู่ที่ จ.สระบุรี ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มาที่บ้านของตนเพื่อหาลูกสาวของเขา ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 คน พี่น้อง เป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยคนโตอายุ 12 ปี เรียนอยู่ ม.2 รองลงมาเรียนอยู่ ป.2 คนที่ 3 อายุ 4 ขวบ และคนสุดท้ายอายุเพียง 8 เดือนเท่านั้น หลังจากทั้งคู่เยี่ยมครอบครัวเสร็จก็บอกที่บ้านว่ามีงานตอนเช้า ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์กันออกมา เพื่อมุ่งหน้าไปทำงานที่สระบุรี โดยก่อนที่จะออกจากบ้าน ยังเข้ามากอดกับลูกๆ ไม่คิดว่าจะเป็นการลาลูกครั้งสุดท้าย ต่อไปจะทำอย่างไรกับลูกทั้ง 4 คน ที่ยังเล็กๆ กันอยู่
ร.ต.อ.มงคลชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ ก็พบทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นจากการสอบถามคนขับรถพ่วง อ้างว่าจอดรถมาปัสสาวะและรถจักรยานยนต์ก็ขับมาชนท้าย ซึ่งตรงที่เกิดเหตุเป็นทางมืด อย่างไรก็ตาม จะได้สอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้นได้ประสานไปทางญาติให้ทราบเรื่องแล้ว









