
ประเด็นคือ- ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในป่าต้นน้ำห้วยขาแข้ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั้ง 2 แห่ง เกินความจุอ่าง ในขณะที่แม่น้ำสะแกกรังถึงจุดวิกฤติแล้ว กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 8 อำเภอ
วันนี้ (15 ต.ค. 60) จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะในเขาต้นน้ำป่าห้วยขาแข้ง ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำทับเสลา (ทับ-สะ-เหลา) ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ต.ทองหลาง อ.ห้วยคตจ.อุทัยธานี ล่าสุดมีปริมาณน้ำเต็มความจุอ่าง ต้องเร่งพร่องน้ำไปยังท้ายเขื่อน โดยโครงการชลประทานอุทัยธานีได้รายงานถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนทับเสลา มีน้ำเก็บกัก 157.71ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 98.56% ระบายน้ำออกวันละ 2.54 ล้าน ลบ.ม. ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต มีน้ำเก็บกัก 44.51 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 102. ล้นอ่างออกวันละ 1.72 ล้าน ลบ.ม.

ขณะที่แม่น้ำแกกรัง ที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี ได้ถึงจุดวิกฤติแล้วที่ +18.50 ระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำได้ล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดริมแม่น้ำสะแกกรัง ชาวบ้านต้องยกของขึ้นที่สูง และทำทางเดินชั่วคราว

ซึ่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้วจำนวน 8 อำเภอ ใน 59 ตำบล 415 หมู่บ้าน ในปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ 16 ตำบล 64 หมู่บ้าน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้สั่งการลงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด และเตรียมพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพ กู้ภัย ในกรณีฉุกเฉิน และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง










