
ผู้การ ตร.นครพนม สั่งตั้งคณะกรรมการสอบ กรณีจราจรไล่ล่าจับเด็กชายวัย 14 ปี หลังพบไม่สวมหมวกกันน็อกก่อนซิ่งหนี สุดท้ายเด็กเสียหลักชนต้นไม้ดับ พ่อแม่หอบหลักฐานคลิปเด็ดแจ้งความเอาผิด ติดใจทำเกินกว่าเหตุ
วันที่ 27 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานสอบสวนพยานเพิ่มเติม กรณีมีพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กอายุ 14 ขวบ ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม คือ นายเสลา อินทะวงษ์ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอนยางนาง หมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วยภรรยา คือ นางนิตยา อินทะวงษ์ อายุ 45 ปี รวมถึงญาติพี่น้อง หอบเอกสารหลักฐานเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.เมืองนครพนม และเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร นายหนึ่ง กล่าวหาว่า กระทำเกินกว่าเหตุ ทำให้ลูกชาย คือ ด.ช.ธนาวุฒิ อินทะวงษ์ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 เรียนอยู่ที่โรงเรียนศรีบัวบาน บ้านเนินสะอาด ต.นาราราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เนื่องจากขับรถจักรยานยนต์ และถูกเจ้าหน้าที่ จราจร สภ.เมือง นครพนม รายหนึ่งติดตามจับ หลังกระทำผิด พ.ร.บ.จราจร ไม่สวมหมวกกันน็อก

จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 100 เอส สีน้ำเงินดำ ทะเบียน กมน 507 นครพนม ของ เด็กชาย วัย 14 ขวบ เสียหลักชนต้นไม้ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายหลัง พลเมืองนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริเวณถนน บ้านนาสมดี หลังวิทยาลัยเทคนิคเดิม นครพนม โดยมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ
โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายดังกล่าว ได้มีการขับรถจักรยานยนต์ พยายามติดตามจับกุมผู้ตายมาตั้งแต่ 4 แยก บ้านน้อยใต้ ทางเข้าตัวเมืองนครพนม มุ่งหน้าไปยังถนนเลี่ยงเมือง ออกไปยัง อ.ท่าอุเทน ก่อนมีการเลี้ยวเข้าสู่ถนน มุ่งหน้าไปยังบ้านนาสมดี จนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางโค้งทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักชนต้นไม้ข้างถนน ซึ่งขณะเกิดเหตุได้มีพลเมืองดี คือ นายสุรเดช มาบัว อายุ 37 ปี พร้อมด้วยภรรยา คือ นางปานเงิน บัวลิ อายุ 29 ปี ชาวบ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย อ.เมือง นครพนม ได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ามาตามเส้นทางเดียวกัน และพบเห็นเหตุการณ์ว่า มีตำรวจจราจรนายหนึ่งคู่กรณีกำลังขับรถจักรยานยนต์ติดตามไล่จับรถจักรยานยนต์ผู้ตาย และมีเสียงตะโกนให้หยุดรถ ซึ่งมาด้วยความเร็วทั้ง 2 คัน แต่ผู้ตายไม่ยอมหยุด จนในที่สุดรถผู้ตายเสียหลักชนต้นไม้ข้างถนน เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนพลเมืองดีที่ติดตามมาได้ถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุไว้ และเข้าไปช่วยเหลือนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม แต่เสียชีวิตภายหลัง ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า เลือดท่วมปอด

ด้าน พ.ต.อ.สมนึก มิควาฬ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครพนม ตั้งคณะทำงานตรวจสอบติดตามสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม หลังมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการ เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ เก็บหลักฐานสอบสวนพยานเพิ่มเติม ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งยอมรับว่าตำรวจจราจรมีการติดตามจับกุมเด็กผู้ตายจริง หลังมีการตั้งจุดตรวจในตัวเมือง แต่ผู้ตายไม่สวมหมวกกันน็อก และพยายามหนีด่านตรวจและฝ่าไฟแดง ทางตำรวจจราจรจึงติดตามจับกุมและเกิดเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในประเด็นตามข้อร้องเรียนว่า เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต หรือกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปผลการสอบสวนตามขั้นตอน อยู่ระหว่างการดำเนินการ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากตำรวจปฏิบัติหน้าที่เข้าข่ายความผิดก็ต้องรับผิด หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย จะต้องให้ความเป็นธรรมผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ทุกอย่างมีขั้นตอนการดำเนินการ ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ ซึ่งหากผิดจริงไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่มีละเว้น จะต้องเอาผิดทั้งทางวินัย และทางอาญา อย่างแน่นอน










