
เจ้าของบ้านเป็นงง! ถูกเพื่อนบ้านจอดรถขวางประตัวเข้าออก พอแจ้งเตือนว่ามีรถเข้าออก เพื่อนบ้านไม่สน ติดกระดาษบอก มันเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่มีใครตรัสรู้ว่าจะเข้าออกกี่โมง…
วันที่ 20 พ.ย. 2561 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก BubBib JubuJubu โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “จอดรถหน้าบ้านเขาซะมิด มอไซค์อีเเก่คันน้อยๆ ออกจากบ้านไม่ได้ เดินยังลำบาก ยังมีหน้ามาเขียนด่าเจ้าของบ้านเขาอีก นี่หนามนุษย์ ใครกันที่ไม่ตรัสรู้” สามัญสํานึกไม่มีจริงๆ #โพสไว้เป็นที่ระลึก #สันขวาน #ตีป้อมมมม
จากข้อมูลทราบว่า เจ้าของบ้านได้ เขียนป้ายเขียนไว้ “อย่าจอดขวางหน้าบ้าน” แต่เพื่อนบ้านคนนี้ก็ยังขับรถมาจอดทุกวัน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน เมื่อมีการเขียนโน๊ตไปติดไว้ที่รถกลับมีกระดาษเขียนโต้
ขณะที่ชาวโซเชียลพากันแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา บ้างว่า ให้ไปตามป้าทุบรถมา, การใช้ “ที่สาธารณะ” หรือทางสาธารณะ ต้องไม่รบกวนขัดสิทธิของผู้อื่นในการใช้ทางสาธารณะนั้นเช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะใช้อย่างไรก็ได้ คนไหนจะเดือดร้อนช่างมัน แบบนี้ไม่ได้
https://www.facebook.com/BubBibJubuJubu/posts/2164455700231240
เฟซบุ๊ก เกิดผล แก้วเกิด เคยโพสต์ข้อมูลไว้ว่า การจอดรถขวางประตูบ้านของผู้อื่น หรือแม้แต่การจอดขวางทางคนอื่นในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า ซึ่งถือว่า เป็นที่สาธารณะสถาน ถือว่า เป็นการกระทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ เพราะไม่สามารถนำรถเข้าหรือออกจากบ้าน หรือออกจากลานจอดไม่ได้
ข้ออ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่สาธารณะ หรือ เจ้าของบ้านไม่ควรใช้รถเมื่อเขาจอดรถบนถนนหน้าบ้าน ใช้อ้างไม่ได้และไร้สาระ เนื่องจากเจ้าของรถใช้สิทธิไปก่อความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งที่รู้แก่ใจถึงความเสียหายนั้นเยี่ยงวิญญูชนพึงรู้กัน จึงถือว่า กระทำความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญใจตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษ
ทั้งนี้ เมื่อเป็นความผิดกฎหมายอาญาแล้ว ตำรวจจะปัดไม่รับแจ้งความร้องทุกข์ไม่ได้ ถ้าปฏิเสธ อาจมีโทษฐานละเว้นหน้าที่โดยมิชอบเพราะความผิดฐานนี้ไม่จำเป็นต้องมีความเสียหายเกิดขึ้น แค่เกิดพฤติกรรมที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญใจ ก็เป็นความผิดอาญาฐานนี้แล้ว…
มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการ กระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำ นัลหรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปใน ทางที่จะล่วงเกินทางเพศต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสองเป็นการ กระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำอันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชานายจ้างหรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท









