
ประเด็นคือ – ความคืบหน้า กรณี ยายวัย 71 ปี เเจ้งความกับ จนท.ว่า ได้ทำลอตเตอรี่หล่นหาย เเละลอตเตอรี่ดังกล่าว ถูกรางวัลที่ 1 โดยสงสัยว่า เพื่อนบ้านจะเก็บได้ เเละนำไปขึ้นเงินรางวัล ล่าสุด ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าให้ปากคำกับ จนท. ยันเป็นลอตเตอรี่ที่ตนเองซื้อมา
จากกรณีที่ น.ส.ประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 7 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี แม่ค้าขายพริกแกง แจ้งความกับตำรวจ สภ.สามชุก ว่าซื้อลอตเตอรี่ เลข 451005 จำนวน 1 ใบ แล้วไปทำหาย ขณะไปช่วยงานศพภายในโรงครัววัดบางขวาก อ.สามชุก เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมามาทราบว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อยู่ ต.ย่านยาว อ.สามชุก เพื่อนบ้านมาแจ้งความกับตำรวจ สภ.สามชุก ว่าถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ธ.ค.จำนวน 1 ใบ ซึ่งนางประดับสงสัยว่าจะเป็นลอตเตอรี่ที่ตนทำหายในงานศพ นางประดับจึงได้ไปร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามคดีให้ด้วย ตำรวจกองปราบจึงได้เชิญตัวนางประดับผู้เสียไปสอบปากคำที่กองปราบ

ล่าสุดเวลา 11.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่ สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี น.ส.เอ ผู้ถูกกล่าวหา พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาพบ พ.ต.อ.เกษม ช้างเผือก ผกก.สอบสวนกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ช่วยราชการกลุ่มงานสอบสาวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.ชัยพร คำสอนทา พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ตามหมายเรียก เพื่อมาให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม
ผู้ถูกกล่าวหาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 เป็นของตน เเต่ตนจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหน เนื่องจากตนได้ซื้อลอตเตอรี่มาจากหลายที่ ทั้งที่ กทม. กับที่ตลาดสามชุก และ อ.ศรีประจันต์ อย่างไรตามทางเจ้าหน้าที่ต้องรอผลการตรวจ DNA จากลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของกลางพร้อมด้วยพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบ จึงจะสามารถสรุปผลทางคดีได้

ด้านผู้ถูกกล่าวหาแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าได้นำลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ไปขึ้นเงินที่กองฉลากในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเงินรางวัลที่ได้มาเป็นเช็คเงินสดระบุชื่อตน แต่ตนได้นำเช็คไปเข้าบัญชีและก็ได้ถอนเอาเงินสดออกมาแล้ว และได้นำเงินบางส่วนไปใช้หนี้สิน ส่วนเงินที่เหลือได้เก็บไว้ในที่ปลอดภัย









