
- ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพราะพวกเขาพูดเพื่อตัวเองไม่ได้
- การเสนอให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เเละห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลก
- เสียงปืนที่ปลุกสังคมไทยให้ตื่น เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 33
- หนึ่งคนตาย ล้านคนตื่น
- สืบทอดเจตนารมณ์ ของสืบ นาคะเสถียร
วันที่ 4 ก.พ. 61 หลังเสียงปืนดังกึกก้องในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นำสู่การจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทยฯ และคณะ โดยมี หัวหน้าวิเชียร หรือ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นหัวหน้าชุดจับกุม ก่อนจะกลายเป็นข่าวครึกโครมที่สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ เพราะพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก อาทิ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา ฯลฯ ใกล้กับแคมป์พักแรมของคณะนายเปรมชัย ซึ่งชุดจับกุมได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร หรือใหญ่ขนาดไหนก็ตาม
และถ้าย้อนไปเมื่อเกือบ 28 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 33 หลังจากเสียงปืนดังขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แม้เสียงปืนดังกล่าวจะไม่ได้มาจากปากกระบอกปืนของนักล่าสัตว์ดังครั้งล่าสุด แต่ก็ได้ปลุกให้สังคมไทยได้ตื่นตัวในเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ จากการตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองของ สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่ทุ่มเทให้กับหน้าที่ในการรักษาผืนป่าและชีวิตสัตว์ป่าอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่ได้การเหลียวแลจากผู้มีอำนาจในบ้านเมือง จึงนำไปสู่เหตุสลด
แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ภาครัฐก็ให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก่อให้เกิดนโยบายต่างๆ เพื่อรักษาผืนป่าออกมามากมาย ส่วนภาคประชาชน ก็มีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึก เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ ของสืบ นาคะเสถียร

สืบเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2492 ที่ จ.ปราจีนบุรี หลังสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี และโท จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็เข้ารับราชการเป็น พนักงานป่าไม้ตรี กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ ประจำอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ จ.ชลบุรี
ต่อมาในปี 2522 สืบได้รับทุนการศึกษาระดับปริญญาโท ในสาขาอนุรักษวิทยา มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากบริติชเคาน์ซิล หลังสำเร็จการศึกษาในปี 2524 เขาก็ได้รับตำแหน่ง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ ก่อนขอย้ายไปเป็นนักวิชาการประจำกองอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อทำงานด้านวิจัย และมีผลงานการวิจัยออกมาจำนวนมาก ที่เป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์ธรรมชาติจนถึงทุกวันนี้
โดยเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เขาเข้าใจว่า ลำพังการทำงานด้านวิจัยเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถรักษาผืนป่าและชีวิตสัตว์ป่าได้ ก็คือการที่สืบได้รับมอบหมายให้เป็น หัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าตกค้างในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จ.สุราษฎร์ธานี สืบและคณะต้องช่วยกันอพยพสัตว์ป่าในพื้นที่กว่าแสนไร่ โดยไม่ได้รับการอนุมัติอุปกรณ์ช่วยชีวิตสัตว์ป่า และมีงบประมาณเริ่มต้นเพียง 8 แสนบาทเท่านั้น แม้สืบและคณะสามารถช่วยเหลือสัตว์ป่าไม่ให้ถูกน้ำท่วมได้กว่าพันตัว แต่สัตว์เหล่านั้นก็ต้องตายลงเป็นส่วนใหญ่หลังจากนั้นไม่นานนัก

ต่อมาสืบจึงเน้นไปยังการทำงานเชิงรุก อาทิ การคัดค้านรัฐบาลในการที่จะสร้าง เขื่อนน้ำโจน บริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี โดยในอภิปรายทุกครั้งเขาจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า เพราะพวกเขาพูดเพื่อตัวเองไม่ได้”
ในปี พ.ศ.2532 สืบดำรงตำแหน่ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และต้องประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ การตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบล่าสัตว์ ฯลฯ ต่อมาเขาจึงได้เสนอให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เเละห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลก เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการคุ้มครองอย่างยั่งยืน
ซึ่งจากปัญหาต่างๆ ที่เขาต้องประสบ ก็ทำให้สืบได้เข้าใจอีกครั้งว่า สิ่งที่เขากำลังต่อสู้ มันยิ่งใหญ่และยากเกินกว่าเขาและทีมงานเล็กๆ จะเอาชนะได้ แต่ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและประชาชน จึงนำไปสู่การปลุกสังคมให้ตื่นด้วยเสียงปืน จากการปลิดชีพตัวเอง
การเสียชีวิตของสืบ สร้างความสะเทือนให้สังคมไทยเป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสียข้าราชการน้ำดีที่ตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม อย่างไม่หวั่นเกรงกับภัยคุกคามใดๆ และหลังจากนั้น 1 ปี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2534 ตามเจตนารมณ์ของ สืบ นาคะเสถียร

ข้อมูลเเละภาพจาก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร / คลิปเพลงสืบทอดเจตนา จาก youtube carabaoofficial









