สุราษฎร์ธานี ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 13 อำเภอ เพื่อให้ทุกหน่วยงานเร่งเข้าฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก
จากกรณีพายุโซนร้อนปาบึก ทำให้เกิดคลื่นลมแรง น้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 3 – 7 ม.ค. ที่ผ่านมา จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว จำนวน 13 อำเภอ ประกอบด้วย ท่าชนะ, ไชยา, ท่าฉาง, พุนพิน, เมือง, กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก, เกาะสมุย, เกาะพะงัน, บ้านนาเดิม, บ้านนาสาร, พระแสง และ วิภาวดี รวม 66 ตำบล 415 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 14,969 ครัวเรือน 35,630 คน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
อิทธิพลพายุปาบึก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ ทางด้านที่อยู่อาศัย มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวน 2 หลัง ในพื้นที่กาญจนดิษฐ์ 1 หลัง และอำเภอท่าชนะ 1 หลัง เสียหายบางส่วน 124 หลัง
ด้านปศุสัตว์ วัว ควาย ได้รับผลกระทบ 380 ตัว พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,450 ไร่ สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหาย ถนน 109 สาย คอสะพาน 9 แห่ง ศาสนสถานและสถานที่ราชการอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย โดยมีจุดอพยพ จำนวน 11 จุด ในพื้นที่ อ.ดอนสัก อ.เกาะสมุย อ.ท่าชนะ และอ.เกาะพะงัน จำนวน 1,276 คน
ขณะนี้ผู้อพยพได้กลับเข้าบ้านพักอาศัยหมดแล้ว ส่วนการคมนาคมสามารถสัญจรได้เป็นปกติ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 78 ล้านบาท เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้เร่งเข้าทำการช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป
