
เริ่มกระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่จะมีสิทธิ์มีเสียงในการยกมือโหวตเลือก “นายกรัฐมนตรี” หลังจากระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ว. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยเป็นการเลือกกันเองของผู้สมัคร ใน 10 กลุ่ม
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการนับหนึ่งกระบวนการสรรหา ส.ว. 250 เสียง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนดให้มี ส.ว. 200 คน แต่ในวาระแรก 5 ปี ให้มี ส.ว. 250 คน จาก 3 ช่องทาง คือ
- คสช. สรรหาจำนวน 194 คน (คสช. ตั้งคณะกรรมการมาคัดเลือกเอง)
- ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็น ส.ว. โดยตำแหน่ง 6 คน
- เลือกโดยกลุ่มวิชาชีพ โดยการเลือก 3 ระดับ คือ อำเภอ จังหวัด และประเทศ ได้ 200 คน จากนั้น ส่งให้ คสช. คัดเลือก 50 คน
ส.ว.สรรหา ตามบทเฉพาะกาลที่มีวาระ 5 ปี ไม่ได้มีหน้าที่เพียงกลั่นกรองกฎหมายแบบ ส.ว. ระบบปกติ แต่ยังมีภารกิจพิเศษ ที่รัฐธรรมนูญมอบให้อีก 2 ภารกิจ คือ การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส.) ซึ่งเป็นผลมาจาก คำถามพ่วงที่ผ่านการลงประชามติ และ ติดตามตรวจสอบการปฏิรูปประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
- ในส่วน 200 คน ที่จะส่งให้ คสช. เลือก 50 คน
แบ่งการเลือก ส.ว. ออกเป็น 3 ระดับ คือ อำเภอ, จังหวัด, ประเทศ ทั้งนี้ ภายใน 20 วัน นับแต่ระเบียบ กกต. มีผลบังคับใช้จะมีการประกาศวันลงทะเบียนของ “องค์กร” ที่มีสิทธิ์แนะนำบุคคลเพื่อรับเลือกเป็น ส.ว. ใน 10 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อันได้แก่ ผู้เคยเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่ของรัฐ
- กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย
- กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข อันได้แก่ ผู้เป็น หรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา แพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร
- กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง
- กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม
- กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และผู้ประกอบกิจการอื่น ๆ ผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว อันได้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม ผู้ประกอบอุตสาหกรรม
- กลุ่มสตรี ผู้สูง คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์
- กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์ วรรณกรรม
- กลุ่มอื่น ๆ
สำหรับการเลือก ส.ว. นั้น เป็นการเลือกกันเองของผู้สมัครทั้ง 10 กลุ่ม แยกเป็น “สมัครด้วยตนเอง” และ “รับรองโดยองค์กร”
ระดับอำเภอ (ประมาณ 30 ธ.ค. 2561)
- ให้ผู้สมัคร เลือก ผู้สมัครที่ต้องการเลือกในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกัน ไม่เกิน 2 คน โดยจะลงคะแนนให้ตนเองก็ได้
- นับคะแนนของแต่ละกลุ่ม และแต่ละวิธีการสมัคร
- ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรกทั้งสมัครด้วยตนเอง และ รับรองโดยองค์กร ของการเลือกระดับอำเภอ รวม 60 คน แล้วส่งไปเลือกในระดับจังหวัด
ระดับจังหวัด (ประมาณ 6 ม.ค. 2562)
- ผู้มีสิทธิ์เลือกกันเองในกลุ่มและวิธีการสมัครเดียวกัน (เหมือนในระดับอำเภอ)
- นับคะแนนแล้ว ผู้ได้คะแนนสูงสุด 4 ลำดับแรก รวมการเลือกระดับจังหวัด รวม 80 คน แล้วส่งไปเลือกในระดับประเทศ
ระดับประเทศ (ประมาณ 16 ม.ค. 2562)
- ใช้วิธีเดียวกัน เลือกผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 10 คนในแต่ละกลุ่ม และสองวิธีการสมัคร รวม 100 คน ส่งให้ คสช.เลือกให้เลือก 50 คน
ขอบคุณภาพ : เว็บไซต์วิทยุโทรทัศน์ รัฐสภา
ข่าวย้อนหลัง
สนช. ผ่านร่างกฎหมายที่มา ส.ว. ไม่ให้เลือกไขว้กลุ่ม – คสช.คัด 50 จาก 200 คน









