หนุ่มดวงแข็งรอดตาย ปัดเซลฟีคู่รถไฟ ยันไม่ได้เมา

จากกรณีที่มีสาวไปถ่ายเซลฟีกับรถไฟจนถูกชนดับ ด้านเพื่อนชายบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด เพื่อนชายยืนยันว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้เมา และปฏิเสธว่าเซลฟีคู่กับรถไฟ

วานนี้ (8 ก.พ.61) เมื่อเวลา 05.00 น. ได้เกิดเหตุรถไฟชนคนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. โดย 1 ในนั้น คือ น.ส.วลัยลักษณ์ สุกามา อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บขาขวาขาด เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งไปรักษาที่ รพ.รามาธิบดี แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

https://youtube.com/watch?v=jEDd4a7NI-U

ส่วนอีกรายคือ นายอำนาจ ณ วรรณติ๊บ อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศรีษะ และแขนทั้ง 2 ข้างหัก 2 ท่อน ขณะนี้ได้ย้ายจาก รพ.รามาธิบดี ไปพักรักษาตัวที่ต่อ รพ.ลาดพร้าว โดยทั้งคู่ทำงานอยู่ที่วิลล่า มาร์เก็ต สาขาอารีย์

ส่วนสาเหตุนั้น นายอมรเทพ ทิพย์หนองแว้ง อายุ 25 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บและผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตน เพื่อนผู้บาดเจ็บและผู้ตาย ได้ไปนั่งดื่มเบียร์ตรงจุดเกิดเหตุใกล้กับรางรถไฟ

จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม. ผู้บาดเจ็บและผู้ตายทั้ง 2 คน บอกว่า อยากถ่ายรูปคู่กับรถไฟ และไปยืนอยู่บนรางรถไฟฝั่งขาออก โดยที่ไม่ได้สังเกตว่ากำลังมีรถไฟอีกขบวนกำลังวิ่งสวนเข้ามา ทำให้รถไฟไปชนเข้าทั้ง 2 ราย โดยนายอำนาจถูกชนจนกระเด็นออกมานอกราง ส่วน น.ส.วลัยลักษณ์ ถูกรถไฟลากร่างไปไกลประมาณ 5 เมตร

ล่าสุดวันนี้ (9 ก.พ. 61) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์เดินทางไปที่จุดเกิดเหตุบริเวณสถานีรถไฟสามเสน ถนนเทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. เพื่อดูร่องรอยจุดที่เกิดเหตุ ยังพบกองเลือดที่อยู่บริเวณกลางรางรถไฟขาเข้า รางรถไฟที่สถานีนี้มีลักษณะเป็นรางคู่ บริเวณสถานีมีแผงรั้วกั้นเป็นแนวยาวประมาณ 200 เมตร แต่เมื่อพ้นตัวสถานีไม่มีรั้วกั้นสามารถเดินข้ามผ่านได้

ทีมข่าวได้พูดคุย นายอรรถสิทธิ์ บุญคั่ง นายสถานีรถไฟสามเสน เพื่อสอบถามเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว หลังจากพยานได้ระบุว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้นั่งดื่มสุรากัน และผู้ตายอยากจะเซลฟี่กับรถไฟ จนกระทั่งเกิดเหตุน่าสลดขึ้น

นายอรรถสิทธิ์ เผยว่า ปกติแล้วที่สถานีรถไฟสามเสนจะมีประชาชนมาตั้งวงดื่มสุรากันเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ถึง 3 กลุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เคยมาไล่บ่อยครั้งแต่สุดท้ายก็ยังมีกลุ่มอื่นๆมานั่งอีก ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานละแวกดังกล่าว

จากการสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาทราบว่ากลุ่มผู้ตาย ได้มานั่งดื่มสุราบริเวณริมข้างรางรถไฟ จากภาพวงจรปิด ที่อยู่ในสถานีรถไฟไม่สามารถจับพฤติกรรมของกลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุอยู่ไกลออกไปถึง 200 เมตร

วงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่ามีรถไฟ ในวันเกิดเหตุ 2 ขบวน ขบวนหนึ่งกำลังจะเคลื่อนตัวออกจากสถานี ส่วนอีกขบวนคือ ขบวนที่ 311 กรุงเทพ – รังสิต กำลังจะเข้าจอดที่สถานี โดยได้ทำการเปิดไฟพร้อมบีบแตรส่งสัญญาณแล้ว แต่ผู้ตายได้มีการยืนอยู่บริเวณกลางรางรถไฟคาดว่าอาจจะไม่สังเกตุ หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์สุรา

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลลาดพร้าวเพื่อพูดคุยกับ นายอำนาจ ณ วรรณติ๊บ อายุ 24 ปี ผู้บาดเจ็บ หลังจากเจ้าตัวได้รับการผ่าตัดแขนข้างขวาแขนหักอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

นายอำนาจได้เล่าให้ฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุ ตนและผู้ตาย พร้อมเพื่อนรวม 4 คน ได้ชักชวนกันไปนั่งดื่มสุราที่บริเวณสถานีรถไฟ ดื่มกันตั้งแต่เที่ยงคืน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมานั่งดื่มที่นี่แล้ว จนกระทั่งผู้ตายได้ขอให้เขานั้นถ่ายรูปคู่กับรถไฟให้หน่อย ไม่ได้เป็นการไปเซลฟี ผู้ตายได้เดินลงไปกลางรางรถไฟ ขณะนั้นเองเขาไม่ทันเห็นว่ามีรถไฟทั้งสองฝั่ง เห็นเพียงแค่แสงไฟเท่านั้น

นายอำนาจอ้างว่าไม่รู้รถไฟมาตอนไหน มาเห็นอีกทีก็จวนตัวแล้ว ซึ่งเขาก็พยายามช่วยดึงแขนผู้ตายแล้ว แต่ด้วยความเร็วของรถไฟจึงไม่สามารถช่วยได้ทัน ส่วนตัวเองก็โดนชนจนกระเด็นจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าตอนเกิดเหตุอยู่ในอาการมึนเมาหรือไม่ นายอำนาจยืนยันว่าไม่ได้เมา เพียงแต่ไม่ได้ระวังตัว