
เปิดภาพวินาทีหนุ่มบุรีรัมย์วัย 29 ปี ขับจยย.ย้อนศรมาบริเวณหน้าห้างดัง ขับส่ายไปมาคล้ายคนเมา ก่อนจะพุ่งชนรถส่งน้ำแข็งที่วิ่งมาเลนปกติจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนกระบะที่ขับตามหลังเบรกไม่ทันพุ่งชนท้ายหกล้อพังยับ ขณะป้าผู้เสียชีวิตเผยหลานไม่ได้เมาแต่มีอาการป่วยทางสมอง
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ม.ค.62 สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชนกัน 3 คันซ้อน บนถนนสายบุรีรัมย์ – นางรอง บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย จึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถหกล้อส่งน้ำแข็งบริษัทหนึ่ง ในลักษณะจอดขวางกลางถนน ด้านท้ายรถมีรอยยุบจากการถูกชน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟสีดำ มีผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง คือ นายอรรถชัย ชาญรัมย์ อายุ 29 ปี ในลักษณะคร่อมอยู่บนซากรถจักรยานยนต์ เลือดไหลนองเต็มพื้นถนน ทั้งนี้บริเวณริมถนนยังพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง จอดอยู่ในสภาพด้านขวาฝั่งคนขับตั้งแต่ช่วงหน้ารถไปจนถึงแคปพังเสียหายเกือบทั้งแถบ

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่ารถจักรยานยนต์ได้ขับออกจากซอยข้างห้างชื่อดัง ขับย้อนศรไปทางหน้าห้างในลักษณะส่ายไปมาคล้ายคนเมา ก่อนจะขับส่ายเข้าไปกลางถนนจนรถหกล้อส่งน้ำแข็งที่ขับสวนมาตามเลนปกติพุ่งชนอย่างจัง ทั้งที่รถหกล้อคันดังกล่าวพยายามหักหลบแล้วแต่ก็ไม่พ้น
จนเป็นเหตุให้นายอรรถชัย คนขับรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ขณะเดียวกันรถกระบะซึ่งขับมาตามหลังรถหกล้อ เบรกไม่อยู่พุ่งชนท้ายรถหกล้อเต็มแรงจนรถพังเสียหาย แต่โชคดีที่คนขับกระบะไม่ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบถาม นายอัศวิน อายุ 31 ปี คนขับรถหกล้อส่งน้ำแข็ง เผยว่า ช่วงเช้าได้ขับรถจะไปส่งน้ำแข็งในซอยข้างห้างตามปกติเหมือนทุกวัน ก็มองเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับออกมาจากซอยแล้วย้อนศรมา ในลักษณะส่ายไปมาคล้ายกับคนเมา แล้วจู่ๆ ก็ขับส่ายเข้าไปกลางถนนพุ่งชนเข้ามารถของตนเอง ซึ่งพยายามหักหลบแล้วแต่ก็ไม่พ้น ทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนอย่างจังจนเสียชีวิต จากนั้นก็มีรถกระบะซึ่งวิ่งมาตามหลังพุ่งชนท้ายรถของตนเองซ้ำอีกเพราะเบรกไม่ทัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนมองว่าเป็นความประมาทของรถจักรยานยนต์ เพราะหากไม่ขับย้อนศรมาคงไม่เกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าว เพราะตนเองก็ขับมาตามเลนปกติ จึงอยากฝากถึงผู้ที่คิดจะขับรถย้อนศรด้วยว่า ไม่ควรจะฝ่าฝืนกฎจราจร เพราะจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดการบาดเจ็บเสียชีวิตได้ และอาจจะทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะความประมาทหรือมักง่ายของตัวเอง อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดกับตนเอง

นางพวงบุพผา ป้าของผู้เสียชีวิต ออกมายืนยันว่า หลานไม่ได้เมาแต่ที่ขับรถส่ายไปมาอาจจะเกิดจากอาการจิตหลอน เนื่องจากหลานป่วยทางสมองได้รักษาตัวมาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการคลุ้มคลั่ง แค่เหม่อลอยชอบพูดคนเดียว แต่ขับรถจักรยานยนต์ไปไหนมาไหนระยะทางไม่ไกลได้ปกติ
โดยก่อนเกิดเหตุที่หลานจะออกจากบ้านก็พูดกับญาติที่บ้านว่า “เขามีความสามารพิเศษมองเห็นผี…ผีเต็มบ้านเลย” ก่อนจะมาทราบข่าวว่าหลานขับรถย้อนศรมาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตดังกล่าว ก็ตกใจมากไม่คิดว่าจะเป็นหลานของตัวเอง แต่พอเห็นภาพวงจรปิดก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะหลานขับย้อนศรเอง









