
ประเด็นคือ – หนุ่มสวีเดนพาครอบครัวมาเที่ยวประเทศไทยครั้งแรก ไปใช้บริการตัดเล็บมือเล็บเท้าริมหาดเกาะสมุย โดนคิดค่าบริการมหาโหดแพงถึง 3,000 บาท พอไม่ยอมจ่ายโดนเรียกเพื่อนมารุมด่า
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 61 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในเพจรวมพลฅนสมุย ว่า “พ่อของเพื่อนฝรั่ง ได้ลงไปพักผ่อนที่ชายหาดละไม และได้ทำเล็บ ตัดหนัง ทำความสะอาดเท้านิดหน่อย โดนคิดไป 3,500 ไม่ถึง 40 นาที ถามเพื่อนๆ หน่อยค่ะ ราคานี้โอเคไหมคะ ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลหน่อยนะคะ” หลังจากที่เผยแพร่ออกไปได้มีผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายนิคโค คาซาล อายุ 46 ปี สัญชาติสวีเดน ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองและภรรยา ได้มานั่งที่ร้านอาหารที่ริมหาดละไม พร้อมกับสั่งน้ำอัดลมมาดื่ม จากนั้นได้มีหญิงไทย 3 คน ใส่เสื้อกั๊กสีชมพูท่าทางใจดีมาถามว่าต้องการนวดไหม พร้อมกับนำป้ายราคาค่าบริการมาแสดงให้ดูก็เลยตอบตกลงตามราคา โดยหญิงไทย 1 คนทำหน้าที่นวดหลัง และหญิงไทยอีก 1 คนทำหน้าที่ตัดเล็บมือและเล็บเท้า ผ่านไป 30 นาที เมื่อทำเสร็จหญิงไทยก็เรียกค่าตัดเล็บ 3,000 บาท ทำให้ตนเองต้องตกใจอย่างมาก เพราะราคาที่ตกลงกันไว้ที่ 300 บาท ตนเองจึงยังไม่ยอมจ่าย แต่หญิงไทยได้เรียกเพื่อนมาอีก 4 คนมาล้อมไว้แล้วก็โวยวายเสียงดังว่านายนิคโค ไม่ยอมจ่ายเงิน จนนายนิคโค รู้สึกอายและไม่ปลอดภัย จึงต้องยอมจ่ายเงินไป 3,000 บาท โดยหญิงคนไทยคนดังกล่าว ยังได้หยิบเงินจากนายนิคโคไปอีก 500 บาท แล้วบอกว่าเป็นค่าทิป

โดยหลังจากนี้นายนิคโค จะไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อต้องการขอเงินส่วนต่างคืน พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแล ในเรื่องนี้ตนเองก็ยังคิดว่าส่วนมากคนไทยเป็นคนใจดี และหวังว่าจะได้กลับมาเที่ยวเกาะสมุยอีก
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หาดละไมเพื่อตรวจสอบ สอบถามผู้ให้บริการดังกล่าว พบว่าอัตราค่าบริการตัดเล็บทุกนิ้วทั่วไปก็คิดค่าบริการ 200-300 บาท แต่ถ้าเพ้นท์เล็บจะอีกราคาหนึ่ง แต่ถ้าตัดเล็บอย่างเดียว 3,000 บาท เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากเกิดปัญหาเช่นนี้บ่อยครั้ง อาจจะทำให้การท่องเที่ยวเสียหาย และคนที่ทำอาชีพนี้ก็เสียหายไปด้วย









