หน่วยซีล มุดถึงโถงถ้ำแล้ว แต่ยังไม่เจอทีมฟุตบอล-ผู้เชี่ยวชาญถ้ำ เชื่อทุกคนปลอดภัย

หน่วยซีล มุดถึงโถงถ้ำแล้ว แต่ยังไม่เจอทีมฟุตบอล-ผู้เชี่ยวชาญถ้ำ เชื่อทุกคนปลอดภัย

ในประเทศ

ความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้สูญหายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดมีสัณญาณที่ดี มนุษย์กบเข้าถึง “โถง” ที่คาดว่าเด็กๆ และโค้ชพักอยู่ พบร่องรอยแต่ยังไม่เจอตัว ผู้เชี่ยวชาญถ้ำ กรมทรัพยากรธรณี มั่นใจทุกคนปลอดภัย

วันนี้ (25 มิ.ย. 61) เวลา 10.45 น. เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเจ้าหน้าที่หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (หน่วยซีล) กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ที่เริ่มปฏิบัติการค้นหา นายเอกพล จันทะวงษ์ โค้ช และนักฟุตบอล อายุ 13-15 ปี รวม 13 ชีวิตที่หายตัวไป ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่ จ.เชียงราย ตั้งแต่วันเสาร์ ที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถเข้าไปถึงบริเวณโถงกลางของถ้ำ หลังม่านน้ำโดยเดินสำรวจภายในซึ่งมีความลึก 7 กิโลเมตรแล้ว พบร่องรอยบางอย่าง แต่ยังไม่พบตัว บริเวณโถงถ้ำเป็นจุดที่เชื่อว่า ทั้ง 13 คนพักอยู่

https://www.facebook.com/ThaiSEAL/posts/1618834608239932

https://www.facebook.com/ThaiSEAL/posts/1618934011563325

หน่วยซีล ใช้วิธีเดินเท้าจากปากทางเข้าสู่ถ้ำหลวงฯ ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งมีน้ำท่วมปิดปากทางเข้า ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เวลา 08.00 น.ใช้พลั่วเจาะอุโมงค์ทราย 09.00 น.โดยประมาณเจาะสำเร็จ เจ้าหน้าที่ดำน้ำลอดเข้าไปภายในถ้ำได้สำเร็จ พร้อมนำอาหาร และชุดปฐมพยาบาลติดตัวไปด้วย เพื่อจะช่วยเหลือ เด็กๆ และโค้ชที่ไม่ได้กินอาหารมาตั้งแต่วันเสาร์ โดยเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ จะครบ 48 ชั่วโมงที่ทุกคนหายไป

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/1834220033282987/

ขณะที่ นายชัยพร ศิริไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ นักธรณีวิทยา เคยปฏิบัติงานที่กรมทรัพยากรธรณี ได้ให้ข้อมูลว่า เคยขึ้นสำรวจถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน พบว่า ทางกายภาพของถ้ำจะมีโถงพื้นต่ำ กับโถงพื้นสูงอยู่สลับกัน โดยจุดโถงพื้นทรายอยู่ด้ายซ้ายของปากถ้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า ทั้ง 13 คน น่าจะอยู่จุดนั้น มีความสูงต่ำจากปากถ้ำ 6-8 เมตร ถ้าหากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เมตรจากฝนตกเมื่อคืน ทั้ง 13 คน ยังคงอยู่บนโถงเนินทรายได้ แต่ขณะเดียวกัน หากทั้ง 13 คนไม่ได้อยู่โถงเนินทรายนี้ ถัดโถงน้ำที่ท่วม ซึ่งเป็นจุดรอยต่อ ยาวประมาณ 800 เมตร เป็นโถงสูงเช่นกัน ซึ่งในช่วงน้ำท่วม ทั้ง 13 ชีวิต อาจปีนป่ายหนีน้ำไปอยู่ที่สูงได้เช่นกัน

( ชัยพร ศิริไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญถ้ำ )

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ความสูงด้านในถ้ำมีระยะประมาณ 400-500 เมตร และด้วยเป็นถ้ำอายุหลายร้อยปี มีซากฟอสซิลที่ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ส่งผลให้อากาศออกซิเจนน้อย แต่กระแสน้ำที่ไหลผ่าน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซค์ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการสูบน้ำทำได้ แต่ต้องติดตั้งหัวเครื่องจักรดีเซลเดินเครื่องอยู่ปากถ้ำ แล้วใช้วิธีต่อสายยางยาวเพื่อสูบน้ำ สามารถทำได้ แต่ห้ามติดตั้งหัวเครื่องจักรภายในถ้ำเด็ดขาด ไม่เช่นนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ส่วนโอกาสรอดชีวิตของ 13 คน ผู้เชี่ยวชาญมีความมั่นใจว่า หากทั้ง 13 คนอยู่บนโถงสูง เพื่อหนีน้ำ และหาอากาศหายใจ มีโอกาสรอดชีวิตสูง

“แต่ถ้าหาก ไปหลบในโถงพื้นต่ำ ซึ่งในถ้ำมีโถงพื้นต่ำอีกหลายจุด ที่น้ำไม่ท่วม จะมีโอกาสเสี่ยงทั้ง 13คนสลบ จากการสูดคาร์บอนไดออกไซค์เข้าไปจำนวนมาก เพราะในถ้ำ คาร์บอนไดออกไซค์จะลอยจากพื้นสูงระดับเข่าจนถึง2 เมตร ซึ่งแต่ละโถง คาร์บอนไดออกไซค์ลอยสูงไม่เท่ากัน แต่ทั้งนี้ เชื่อว่า ตามสัญชาติญาณคนเพื่อเอาตัวรอด จะปีนหาที่สูง เพื่อหนีน้ำและหาอากาศหายใจ ส่วนตัวยัง เชื่อว่า 13 ชีวิต ยังปลอดภัย แต่อาจจะอ่อนเพลียเพราะขาดอาหาร” ผู้เชี่ยวชาญด้านถ้ำ นักธรณีวิทยา

 

ขอบคุณภาพ กรมทรัพยกรธรณีวิทยา  / คาเธ่ย์ หมี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะติดค้นหา “โค้ช-นักฟุตบอล” ติดถ้ำเชียงราย หน่วยซีล-นักดำน้ำลุยช่วย

นักสำรวจถ้ำเปิดข้อมูลสำคัญ ช่วยทีมฟุตบอลหายในถ้ำ จ.เชียงราย

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง