
ชื่นชมโค้ชเอก เสียสละน้ำ-อาหารให้เด็ก จนร่างกาย “อ่อนแอ” ด้านป้าโค้ชบอกอยากให้โค้ชอดทน ไม่อยากให้กลัวใครตำหนิ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุนี้ขึ้น
วันที่ 4 ก.ค. 61 จากปฏิบัติการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทั้ง 13 ชีวิต โดยพบว่าทั้ง 13 คน ยังปลอดภัย ในวันที่ 2 ก.ค. และผลการตรวจร่างกาย พบว่า แทบทุกคนร่างกายปกติ ยกเว้น 2 คนที่ผลการตรวจออกมา เป็นระดับสีเหลือง หรือมีความผิดปกติในระดับปานกลาง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ ผู้ช่วยโค้ชเอก ขณะที่อีกคนหนึ่ง หน่วยซีลไม่ได้เปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด
ตัวแทนจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ (หน่วยซีล) เผยว่า “ผู้ช่วยโค้ชเอก อายุ 25 ปี มีความเสียสละอย่างสูง ไม่ได้แตะน้ำหรือขนมที่ซื้อก่อนเข้าถ้ำเลย แต่ให้น้องๆ นักฟุตบอลกิน ทำให้ร่างกายของตัวเองอ่อนแอ ระหว่างอยู่ในถ้ำ และยังกำกับดูแลการใช้ชีวิตของน้องๆ ไม่ให้ดื่มน้ำจากพื้นถ้ำที่สกปรก แต่ใช้มือรองน้ำจากผนังถ้ำที่ไหลมาจากรู ทั้งยังให้น้องๆ ใช้สติและทำสมาธิ เพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวร่างกายมาก จะได้มีพลังงานอยู่ในถ้ำได้นาน และบอกให้น้องๆ ใช้ไฟฉายทีละกระบอก และเมื่อถ่านหมด จึงค่อยใช้กระบอกใหม่ “แม้จะมีความกลัว แต่โค้ชก็มีสติ คอยปลอบประโลมน้อง เสียสละให้น้อง”

ขณะที่นางธรรม กันทวงศ์ อายุ 60 ปี ป้าของนายเอกพล หรือ โค้ชเอก บอกว่า “ทุกครั้งที่ทานข้าว โค้ชเอกจะให้ลูกศิษย์ทานก่อนเสมอ นอกจากนี้โค้ชเอกเป็นคนธรรมะธัมโม เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมารับหน้าที่ “โค้ช” เคยบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ที่จ.ลำพูน เมื่ออายุ 10 ปี กระทั่ง อายุ 20 ปี ก็ได้ลาสิกขาออกมาเป็นโค้ช”
“มีคนมาบอกเธอว่า โค้ชเอกสอนน้องๆ ทั้ง 12 คน นั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อให้เด็กๆ มีสติ และลืมความหิวนั้น เธอเชื่อว่าโค้ชเอกต้องสอนได้ดี เพราะเมื่อโค้ชเอกสึกออกมาแล้ว ก็จะมีการนั่งสมาธิเช้าและเย็นอยู่เสมอ
“อยากบอกโค้ชเอกว่า ให้อดทนอีกหน่อย ไม่อยากให้โค้กเอกกลัวข้างนอก ไม่อยากให้กลัวใครตำหนิ ทั้งผู้ปกครองทั้งญาติ คนทั้งประเทศ ขนาดนายกฯ ยังบอกเลยว่าอย่าตำหนิโค้ช ไม่มีใครตั้งใจอยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และภูมิใจในตัวหลานคนนี้มาก” ป้าของโค้ชเอกกล่าว

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews









