ประเด็นคือ – อดีตทหารพรานไปรักษาความสงบทางภาคใต้ แล้วโดนระเบิดจนพิการเดินเหินไม่ปกติ โร่แจ้งจับเมีย กุเรื่องว่าตาย-ฮุบเงินกว่า 4 ล้านบาท ไปอยู่กินกับสามีใหม่
เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายนันทวัฒน์ พุทธกำเนิด อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 50/1 ม.3 ต.นาชะอัง จ.ชุมพร อาสากู้ภัย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ว่าได้รับนายพงษ์ศักดิ์ ใจบุญ อายุ 48 ปี ชาวตำบลหินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ หนุ่มพิการ จากสถานีรถไฟชุมพร มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ว่า ได้ถูกแฟน คือ น.ส.ปุ๊กปิ๊ก หรือฝน อายุ 35 ปี จำชื่อจริงนามสกุลไม่ได้ ที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้อง ไปแจ้งว่าตนเสียชีวิตแล้ว และทำเรื่องเพื่อขอรับเงินสวัสดิการจากทางการไปเป็นจำนวน 4 .5 ล้านบาทไป จึงได้เดินทางไปเพื่อตรวจสอบ พบว่านายพงษ์ศักดิ์ หลังจากที่แจ้งความแล้ว เดินทางมารอขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟชุมพร เพื่อจะเดินทางไปค่ายธนรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พบนายพงษ์ศักดิ์ นั่งอยู่บริเวณม้านั่งยาว หน้าสถานีรถไฟชุมพร จึงได้สอบถามจนได้ความว่า ตนเองเป็นทหารเกณฑ์อยู่ 2 ปี จากนั้นไม่มีงานทำจึงสมัครเข้าทหารพรานที่ 4/1 อ.แว้ง จ. นราธิวาส ทำงานชุดป้องกันครูและนักเรียน เป็นทหารพราน 18 ปี และได้แต่งงานกับ น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ซึ่งเป็นชาว อ.ปะทิว จ.ชุมพร อยู่กินหลายปี ซึ่งตลอดที่ไปเป็นทหาร ได้ส่งเงินให้ภรรยาทุกเดือน เดือนละ 2 หมื่นบาท
จนกระทั่งปี 57 เป็นวันปีใหม่ ตามโรงเรียนในอำเภอมีการจัดงานปีใหม่ ตนดูแลความเรียบรอยครูและนักเรียนจนบ่าย ไม่ได้กินข้าว จึงเดินไปหาข้าวกิน ตอนนั้นมีชายแปลกหน้าเดินเข้ามาในโรงเรียน ตนเห็นผิดสังเกต จึงเดินไปตรวจสอบ และคนร้ายกดระเบิดจนตนบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
ซึ่ง น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ในช่วงแรกๆ ก็เดินทางมาดูแลตนตลอด แต่ระยะหลัง น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ได้บอกกับตนเองว่า อายเพื่อนที่มีสามีพิการ หลังจากนั้นก็หายหน้าหายตาไปเลย ทิ้งตนให้รักษาตัวอยู่ที่โรพยาบาลตามลำพัง และต่อมาตนรู้ว่า น.ส.ปุ๊กปิ๊ก ได้มีสามีใหม่ ทั้งที่ยังไม่ได้หย่ากับตนเอง และได้มีการถอนเงินจำนวน 4.5 ล้านไปจนหมด จนตนต้องเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะตนเองยังไม่ตาย และยังมีชีวิตอยู่
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.ปะทิว แต่ตำรวจบอกว่าให้มาแจ้งที่ชุมพร ตนจึงเดินทางมาที่ชุมพร ไม่มีที่นอน จึงไปนอนที่สถานีรถไฟชุมพร ปรากฏว่าได้มีคนร้ายได้ขโมยมือถือไป โดยแกะซิมในเครื่องวางไว้ให้ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีสิ่งที่ดีเข้ามา เมื่ออาสาที่มาช่วยทราบชื่อภายหลังคือ นายนันทวัฒน์ พุทธกำเนิด ได้นำตนมาแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร พร้อมซื้อโทรศัพท์มือถือให้ตน 1 เครื่อง เพื่อใช้ติดต่อกับญาติ ซึ่งตนต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวต่อว่า ตนเองอยู่ในสภาพร่างกายที่ไม่สามารถจะทำงานหาเลี้ยงชีพได้ จึงวอนให้ น.ส.ปุ๊กปิ๊ก อดีตภรรยา จงเห็นใจ ขอเงินตนที่เอาไปกว่า 4 ล้านบาท มาแบ่งให้ตนสัก 2 ล้านบาท เพื่อจะได้ไว้ใช้สอยเลี้ยงชีวิต ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด
ด้าน นายวินิตร์ หลักอินทร์ รปภ.สถานีรถไฟชุมพร เปิดเผยว่า ตอนรถไฟฟรี จะพบนายพงษ์ศักดิ์บ่อย และทุกครั้งก็อยู่ในอาการมึนเมา และช่วงหลังที่ไม่มีรถไฟฟรี นานๆ จะมาครั้ง แต่ก็อยู่ในอาการเมาทุกครั้ง และทุกครั้งก็จะบ่นเรื่องเมียหนี ถูกเมียหลอกเอาเงินไปหมด
