
ประเด็นคือ – กรณีกระทรวงสาธารณสุข ประเทศฟิลิปปินส์ สั่งระงับการให้บริการวัคซีนไข้เลือดออก หลังเกิดอาการข้างเคียงกับประชาชน ในส่วนของประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังไม่ยกเลิกการขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิดนี้ เพียงแต่ให้ปรับแก้คำเตือนฉลากยา และขอให้แพทย์ใช้ความระมัดระวังต่อการให้บริการวัคซีน
วันที่ 15 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่บรรจุวัคซีนไข้เลือดออกเป็นวัคซีนพื้นฐาน เพราะยังมีข้อจำกัดบางประการ พร้อมทั้งยังให้ประชาชนคงมาตรการ ไม่ให้ถูกยุงกัด และจำกัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ผลสรุปของการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 4 ทบทวนข้อมูลเพื่อการพิจารณานำวัคซีนโรคไข้เลือดออกมาใช้เป็นเครื่องมือป้องกันควบคุมโรคดังกล่าวในประเทศไทย ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข ประเทศฟิลิปปินส์ สั่งระงับการให้บริการวัคซีนไข้เลือดออก

ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา บอกว่า ยังไม่มีการถอนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโรคไข้เลือดออกในประเทศ เนื่องจากประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ดี เพียงแต่มีข้อแนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ปรับเอกสารกำกับยา เพื่อให้ทันกับสถานการณ์
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเสริฐ กล่าวอีกว่า วัคซีนไข้เลือดออก สามารถป้องกันการป่วยโรคไข้เลือดออกได้ร้อยละ 65 แต่การรับวัคซีนนั้นต้องประเมินทั้งอายุ และประวัติการเกิดโรคด้วย
เพราะจากข้อมูลพบว่า ผู้ที่เคยป่วยโรคไข้เลือดออกแล้วฉีดวัคซีน จะมีประสิทธิภาพป้องกันโรคได้ดี /แต่ผู้ที่ยังไม่เคยป่วยและฉีดวัคซีนบางคน อาจเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้น ดังนั้น การใช้วัคซีนไข้เลือดออก ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และอย่าวิตกกังวลกับข่าวที่เกิดขึ้นเพราะแต่ละประเทศ ข้อมูลแตกต่างกัน

และขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้บรรจุในรายการวัคซีนพื้นฐานที่ภาครัฐให้บริการแก่ประชาชน เนื่องจากมีข้อจำกัดบางประการในการป้องกันไข้เลือดออก จำเป็นต้องพิจารณาจากข้อมูลทางระบาดวิทยา การประเมินผลกระทบทางสาธารณสุข ความคุ้มค่าในการนำวัคซีนมาใช้
แม้วัคซีนชนิดนี้ จะเป็นมาตรการหนึ่งในการป้องกันโรคไข้เลือดออก แต่สิ่งสำคัญคือ ประชาชนยังต้องดูแลและป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด และร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย









