อลังการกลางแม่น้ำโขง! “ไหลเรือไฟนครพนม” นทท.นับแสนแห่ชมแน่น

อลังการกลางแม่น้ำโขง! “ไหลเรือไฟนครพนม” นทท.นับแสนแห่ชมแน่น

ในประเทศ

สืบสานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม จัดขึ้นยิ่งใหญ่กว่าทุกปี และสวยงามอลังการ โดยเรือไฟอำเภอเมืองนครพนม คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทความสวยงาม ส่วน อ.นาแก ชนะเลิศความคิด ศิลปินเรือไฟเผย สุดภาคภูมิใจได้สืบสานประเพณี คุณค่ามากกว่ารางวัล

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศการชมประกวดไหลเรือไฟปีนี้คึกคักมากกว่าทุกปี มีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชม งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ และงานกาชาดประจำปี 2561  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 -25 ตุลาคม 2561  โดยมีการจัดประกวดไหลเรือไฟ จากอำเภอต่างๆ ทั้ง 12 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 14 ลำ มีเรือไฟขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 60 -80 เมตร ความสูงประมาณ 20 -30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟมากกว่า 20,000 – 30,000 ดวง บางลำทุ่มทุนสร้างนับล้านบาท เพื่อให้มีความสวยงาม อลังการ ทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยวนับแสนคนให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชมการประกวดไหลเรือไฟ ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม

สำหรับ ผลการประกวดเรือไฟปีนี้ อ.นาแก ได้คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทความคิด รองอันดับ 1 ได้แก่ อ.นาทม และรองอันดับ 2 ได้แก่ อ.ศรีสงคราม ส่วนรางวัลชนะเลิศ ประเภทความสวยงาม คือ อ.เมืองนครพนม รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อ.โพนสวรรค์  รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ อ.ท่าอุเทน และ รางวัลชมเชยได้แก่ อ.ธาตุพนม  ส่วนลวดลายการทำเรือไฟ จะเน้นลดลายดวงไฟ เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวสถานที่สำคัญของจังหวัด ไปจนถึงการรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงการเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10

นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำลวดลายเป็นสัญลักษณ์แลนด์มาร์คสำคัญของ จ.นครพนม อาทิ องค์พระธาตุพนม พญาศรีสัตตนาคราช รวมถึงพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ประจำวันเกิด 8 พระธาตุ และวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เฉลิมฉลองครบรอบ 232 ปี  เมืองนครพนม ซึ่งในการชนะเลิศครั้งนี้หัวใจสำคัญของเรือไฟ คือการวางตำแหน่งเรือไฟ ที่มีความโดดเด่นสวยงาม

นายธนพงษ์ ไชยคำ อายุ 50ปี  ปลัด อบต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม  ในฐานะผู้ควบคุมการทำเรือไฟ เปิดเผยว่า การทำเรือไฟที่เป็นการสืบสานประเพณี จะต้องมาจากความร่วมแรงร่วมใจ จากพลังศรัทธา แต่หากใช้การว่าจ้างให้ทำสร้างขึ้นไม่เกิดประโยชน์ เพราะสิ่งสำคัญการทำเรือไฟไหลโชว์ออกพรรษา ไม่ได้ต้องการเพียงโชว์ความสวยงาม แต่ต้องการโชว์ถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่มาของเรือไฟ ก่อนจะมาเป็นเรือไฟที่สวยงาม ต้องเกิดจากความรัก ความศรัทธา ความสามัคคีของชาวบ้าน ร่วมแรงร่วมใจกันขึ้นเท่านั้น ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ลูกหลาน ได้ศึกษาความเป็นมา

นอกจากนี้จะต้องมีการออกแบบลวดลาย บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ ความเป็นอยู่วิถีชีวิต ของอำเภอต่างๆ เช่น อ.นาแก จะต้องมีลวดลายดวงไฟออกมาเป็นรูปพระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำอำเภอนาแก รวมถึงสถานที่ต่างๆ  ขาดไม่ได้คือการแสดงออกถึงความจงรักษ์ภักดี ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  โดยการทำเรือไฟ ทุกลำยืนยัน ไม่มีใครมองถึงเงินรางวัล เพราะแต่ละลำมีมูลค่าสูงไม่ต่ำกว่า 5 แสนถึงล้านบาท  เมื่อเทียบกับรางวัลประมาณ 50,000 บาท  แต่ทุกคนได้ร่วมใจสร้างขึ้น เพื่อเป็นการสืบสานประเพณี และคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงาม ที่สร้างความภาคภูมิใจให้ชาวนครพนม จากอดีตถึงปัจจุบัน

 

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง