เริ่มพิธีเคลื่อนเถ้าอัฐิ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ จากฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวง พระอารามหลวง จ.ขอนแก่น เพื่อไปลอยอังคารที่พระธาตุกลางน้ำ แม่น้ำโขง จ.หนองคาย
วันนี้ 30 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณปริสุทโธ เสร็จสิ้นลงไปแล้วซึ่งการจัดงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายและสมเกียรติ ตามเจตนารมย์ที่ท่านได้เขียนไว้ในพินัยกรรม โดยในช่วงเช้าวันนี้มีพิธีเก็บเถ้าอัฐิธาตุของท่านเพื่อนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขงในจังหวัดหนองคาย
เตาเผาที่บรรจุโลงสแตนเลสที่ถูกปิดล็อกด้วยกุญแจ 4 ตัว ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นฐานเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก ภายในบรรจุเถ้าอัฐิธาตุของหลวงพ่อคูณปริสุทโธ มีทหารและเจ้าหน้าที่ สห.รักษาความปลอดภัยโดยรอบฌาปสถานชั่วคราวเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน
ขณะพื้นที่รอบนอกมีศิษยานุศิษย์และประชาชนที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมายังคงรอร่วมพิธีกรรมทางศาสนาและเก็บเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณในช่วงเช้าวันนี้ หลายคนบอกว่าตั้งใจมาส่งหลวงพ่อ โดยมาร่วมพิธีตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.)
สำหรับพิธีเก็บเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูนได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. โดยมีผู้ร่วมในพิธีคือ นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น รองศาตราจารย์นายแพทย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาตร์ มหาวิทยาขอนแก่น ตัวแทนญาติหลวงพ่อคูณและสักขีพยานจำนวน 12 คน โดยเริ่มประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลังจากนั้นตัวแทนจะเข้าไปตรวจสอบพายในเตาเผาว่ามีเศษเถ้าของอัฐิตกค้างอยู่หรือไม่ ก่อนจะเคาะให้เศษชิ้นส่วนทุกอย่างตกลงไปในโลงสแตนเลสขนาดเท่าโลงจริงหลังจากนั้นจะมีการล็อกโลงทั้ง 4 ด้าน ก่อนจะทำการเคลื่อนย้ายโลงสแตนเลสเพื่อไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง ซึ่งจะไม่มีผู้ได้เห็นเถ้าอัฐิธาตุของท่านจนกว่าจะถูกนำไปลอยอังคาร
เมื่อไปถึงขบวนเรือจะเคลื่อนออกจากท่าเทียบเรือ นรข. โดยมีเรือเจ้าท่าหนองคาย เป็นเรือนำขบวน ตามด้วยเรือ ล.169, เรือ นรข. ขนาบด้วยเรือตำรวจน้ำ, เรือตรวจคนเข้าเมือง รวม 8 ลำ และเรือเอกชนที่พาลูกศิษย์คนใกล้ชิดลงเรือจำนวน 10 ลำ ๆ ละ 25 คน ตามอยู่ท้ายขบวน ขบวนเรือจะลอยทวนน้ำโขงไปถึงสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ระยะทางจากท่าเทียบเรือ นรข. 5 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บนฝั่งได้กราบไหว้เถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีเก็บเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณเจ้าหน้าที่จะนำโดมขนาดใหญ่มาครอบชิ้นส่วนทุกอย่าง บริเวณเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายนาคและสัตว์ป่าหิมพานต์ รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ให้พุทธศาสนิกชน รำลึกถึง พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ตลอดกาล
