
ประเด็นคือ- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เกิดเหตุรถตู้ชนท้ายบรรทุก จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงเส้นทางจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 พ.ย. 60) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ กรณีรถตู้นำเที่ยวชนท้ายรถบรรทุก บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 347 ช่วงกม. 28+700 ฝั่งขาออก ต.ตลาดเรียบ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 4 ราย และไกด์นำเที่ยวชาวไทย 1 ราย เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า บริเวณจุดเกิดเหตุนั้น จากประวัติแล้วไม่พบการเกิดอุบัติเหตุมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดจากในส่วนของรถตู้เอง อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว ก็จะมีการปรับปรุงเส้นทางจราจรตรงจุดนี้และจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เบื้องต้นจะทำการขยายช่องทางจราจรเพิ่มอีก 1 ช่อง ในช่วงก่อนเข้าและหลังจากออกถนนหมายเลข 3030 เป็นระยะทางฝั่งละ 100 เมตร เพื่อให้รถบรรทุกเลี้ยวเข้า-ออกได้ง่าย พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนการใช้ความเร็วเป็นระยะๆ ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มในทุกๆ 50-100 เมตร

นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการทำสะพานลอยให้คนเดินข้ามและใช้รถ จยย.ข้ามได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางเลี้ยวเข้าชุมชน มักจะมีคนเดินข้ามถนนและขี่รถ จยย.ผ่านร่องกลางถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากเส้นทางนี้ได้รับการแก้ไขแล้วคาดว่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สัญจรได้ดีขึ้น

“จริงๆ แล้วเท่าที่เช็กข้อมูลดู รถบรรทุกตรงนี้จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเวลาเข้าไปในเส้น 3030 ซึ่งเป็นถนนคลองชลประทานที่มีถนนแคบอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบมา รถก็ไม่ได้วิ่งเร็วในช่วงถนนนี้ เพราะว่าในช่วง 700 เมตร เข้าไปจากปากทางจะมีบ่อดิน ซึ่งใช้กันเยอะ เท่าที่ทราบก็ยังไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เพียงแต่ว่าเราคงต้องป้องกันให้มากขึ้น เพราะจุดนี้ไม่เคยเกิด แต่เมื่อเกิดแล้วยังไงก็ต้องแก้ แก้ทั้งสองด้าน”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ก็ได้เร่งให้กรมการขนส่งทางบก ติดตามการชดเชยค่าเสียหายของบริษัทประกันภัยให้ครบถ้วนโดยเร็วแล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบการบริหารจัดการของบริษัททัวร์ เพื่อกำหนดให้เป็นมาตรการในการป้องกันในอนาคต

ซึ่งมาตรการต่อไป บริษัทที่เรียกว่า เช่าเหมารถ จะต้องถูกตรวจสอบสภาพรถ ตรวจสอบประวัติ และทุกบริษัทที่ทำธุรกิจด้านรถเช่าเหมาจะต้องมีผู้จัดการด้านความปลอดภัยหรือเซฟตี้แมเนเจอร์ ทำหน้าที่ในเรื่องของรับผิดชอบรถที่ออกมาให้บริการ ทั้งในตัวความพร้อมของรถและคนขับ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางบริษัทโดยผู้จัดการคนนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นมาตรการต่อไปที่จะทำกับรถเช่าเหมาทั้งหมด









