อาจารย์ภาษาไทยไขข้อข้องใจ เหตุชาวโซเชียลเถียงกันจนจะหมดปี “ย้อนแย้ง” กับ “ย้อนแยง” ตกลงใช้คำไหนจึงจะถูกต้องกันแน่
จากกรณีที่ชาวโซเชียลถกเถียงกันในวงกว้างถึงคำว่า “ย้อนแย้ง” กับ “ย้อนแยง” ว่า ตกลงใช้คำใดจึงจะถูกต้องกันแน่ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ fernnnfernnfern.com ได้เผยภาพที่มีผู้ถกเถียงกันถึงคำดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “ปิดปี 2018 ด้วยการหาข้อสรุปเรื่องย้อนแย้ง ย้อนแยง ไม่ได้ โว้ยยยยยยยย ข้อใดถูก”
ปิดปี 2018 ด้วยการหาข้อสรุปเรื่องย้อนแย้ง ย้อนแยง ไม่ได้ โว้ยยยยยยยย ข้อใดถูก pic.twitter.com/qX9liXRnB6
— fernnnfernnfern.com (@fernnnfernnfern) December 31, 2018
โดยฝ่ายที่บอกว่า ต้องใช้คำว่า “ย้อนแยง” ให้เหตุผลว่า “ย้อนแยง” ไม่ใช่ ย้อนแย้ง โดยอ้างว่าตนได้เกรด 4 วิชาภาษาไทยมา 15 ปีซ้อน ไม่รวมสอบแข่งขันภาษาไทยได้อันดับที่ 2 ของประเทศมาไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง อ่านแล้วหงุดหงิดทุกที ให้ตายสิ
ในขณะที่ฝ่ายที่เห็นต่าง ซึ่งเป็นติวเตอร์ ระบุต้องใช้คำว่า “ย้อนแย้ง” ไม่ใช่ย้อนแยง โดยให้เหตุผลว่า คำนี้มาจาก “ย้อน” + “แย้ง” ลองพิจารณาจากความหมายของแต่ละคำดู ถ้าเป็นคำว่า “แยง” ความหมายมันไม่ได้เลย ถ้าใช้คำว่า “ย้อนแยง” ความหมายน่าจะหมายถึงการแยงแบบย้อน แยงแบบสวนทาง
หลังจากเรื่องดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ ก็มีผู้ให้ความสนใจ รีทวีตถึงกว่า 1.2 หมื่นครั้ง โดยมีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งผู้ที่ใช้คำว่า “ย้อนแยง” และ “ย้อนแย้ง” ต่างคนต่างก็ถกกันถึงคำดังกล่าวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะมีข้อสรุป
“ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” จึงได้สอบถามไปยัง ผศ.ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา อดีตคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นนักภาษาและติวเตอร์ภาษาไทยชื่อดัง เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยอาจารย์ธเนศได้ฟันธงว่า ที่ถูกต้อง ต้องใช้คำว่า “ย้อนแย้ง” ไม่มีคำว่า “ย้อนแยง” เพราะคำว่า “แยง” นั้นหมายถึงการแหย่เข้าไปในช่องหรือในรู
อาจารย์ธเนศ อธิบายเพิ่มเติมว่า คำว่า “ย้อนแย้ง” เป็นคำเกิดใหม่ ใช้กันมาไม่ถึง 10 ปี และยังไม่มีในพจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถาน เดิมมีแต่คำว่า “ขัดแย้ง” ซึ่งการขัดแย้งนั้นเกิดขึ้นระหว่างคนสองคนขึ้นไปที่ไม่ลงรอยกัน ส่วนคำว่า “ย้อนแย้ง” เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวคนคนเดียว ที่มีความคิดย้อนไปแย้งมาในตัวเอง เทียบกับคำว่า paradox ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
โดยอาจารย์ธเนศยังได้กล่าวติดตลกทิ้งท้ายด้วยว่า “ไม่รู้จะเถียงกันไปทำไม”
