
หลังจากเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่องเจ้าปัญหาที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชียล หลังมีลูกค้าบางส่วนซื้อไปใช้แล้วเครื่องยนต์รถพังเสียหาย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 60 รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ได้นำน้ำมันเครื่องยี่ห้อดังกล่าวมาตรวจสอบ พร้อมอีก 2 ยี่ห้อ ก่อนไลฟ์สดแถลงผลการตรวจสอบผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Weerachai Phutdhawong

โดยระบุว่า น้ำมันเครื่องที่ตรวจสอบทั้ง 3 ยี่ห้อ เป็นน้ำมันพาราฟิน อยู่กลุ่มเดียวกับน้ำมันพืช มีจุดเดือดไม่สูง เป็นสารที่ใช้เคลือบโลหะและลดแรงเสียดทานของโลหะ นำมาใช้ลดแรงเสียดทานลูกสูบ หรือหยดใบเลื่อยเหล็ก ซึ่งยังพบใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกและกาวด้วย แต่ไม่เคยมีรายงานนำน้ำมันพาราฟินใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าบางส่วนบอกว่าใช้แล้วดี แต่อาจมีบางส่วนบอกใช้แล้วเครื่องพัง
ผลการวิเคราะห์หัวเชื้อน้ำมันเครื่องหลายยี่ห้อ
โพสต์โดย Weerachai Phutdhawong บน 18 กันยายน 2017
จากการตรวจสอบพบว่า น้ำมันพาราฟินทนความร้อนได้แค่ 200-500 องศาเซลเซียส ถ้ามากกว่านั้นจะระเหย ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลจากอาจารย์ที่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์ทราบว่า ห้องเครื่องรถยนต์จะมีความร้อนสูงถึง 500-1,000 องศาเซลเซียส

ฉะนั้นน้ำมันตัวนี้หากใช้แรกๆ จะลื่น แต่พอใช้จนเครื่องเริ่มร้อนและถึงจุดเดือดของพาราฟิน จะทำให้เกิดเขม่าและเครื่องน็อก เพราะเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งอันตรายมากหากขับรถมาเร็วๆ แถมพอใช้ไปเครื่องจะมีกรดเกลือมากด้วย อาจส่งผลให้เครื่องพังด้วย โดยจะมีผลในระยะยาว









