
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สทนช. เฝ้าระวังฝนตกหนักจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านปลายเดือนกันยายน พร้อมเร่งวางแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนหลังสิ้นสุดฤดูฝน
วันที่ 24 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ กล่าวว่า วันนี้ต่อเนื่องถึงวันที่ 26 กันยายน ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยไม่มีพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่ง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนภาคตะวันตก มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง จึงยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำบางปะกง
ส่วนช่วงวันที่ 27-29 กันยายน ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง จะทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สทนช. ได้ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 8 เพื่อติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ แนวโน้มปริมาณฝน สภาพน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ความคืบหน้าการบรรเทาผลกระทบและความช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการวิเคราะห์ความเสี่ยงพื้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนต่างๆ แหล่งน้ำธรรมชาติ และทุ่งรับน้ำต่างๆ เพื่อวางแผนการจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ 5 ส่วนหลัก คือ น้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค–บริโภค รักษาระบบนิเวศ สำรองน้ำสำหรับการใช้น้ำต้นฤดูฝน ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ด้านการเกษตร และสุดท้าย ภาคอุตสาหกรรม
รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวย้ำว่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศสิ้นสุดฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว จึงจำเป็นต้องทบทวนปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์สภาพน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ด้วยการนำข้อมูลจาก Area Base พื้นที่แล้งซ้ำซากมาพิจารณากำหนดมาตรการรองรับเพิ่มเติม









