พายุฤดูร้อนพัดถล่ม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เสียหายกว่า 480 หลังคา พบหญิงตั้งครรภ์ 3 เดือนหนีตายถูกคานบ้านหล่นทับ ด้านผู้ว่าฯ ประกาศให้อำเภอพิชัย เป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินวาตภัยแล้ว เผยรุนแรงที่สุดในรอบ 90 ปี
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายปรัญชา เสริฐลือชา นายอำเภอพิชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ร้านดาราการเกษตร หมู่ 1 ต.บ้านดารา อ.พิชัย พบว่าความแรงของพายุฤดูร้อนที่โหมกระหน่ำพัดร้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 4 คูหา สร้างมาได้ 4 ปี ส่วนหน้าเปิดเป็นร้านจำหน่ายวัสดุทางการเกษตร พังเสียหาย ส่วนของหลังคา คาน ผนัง ยุบลงกองกับพื้น ไม่เหลือให้เห็นสภาพบ้านและร้านค้า
โดยสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านได้รับความเสียหาย รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ชค 5018 เชียงใหม่ ถูกคานบ้านหักและทับยุบทั้งคัน นับเป็นภาพความรุนแรงของพายุที่ถอนรากถอนโคนเสา โครงสร้างของบ้านเสียหายสิ้นเชิง
นายอัฐสัณห์ นครศรี เจ้าของบ้านและร้านดาราการเกษตร เล่าว่า พายุที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงแบบไม่เคยพบเจอมาก่อน แม้ตนจะอายุ 63 ปี สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ก็ไม่เคยเกิดขึ้น คิดว่าบ้านสร้างใหม่โครงสร้างต่างๆ แข็งแรง ใช้วัสดุอย่างดี น่าจะสามารถต้านทานความแรงของพายุที่โหมแรงมาเพียง 1 ชั่วโมงได้ แต่ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นหลังคาของบ้านปลิวข้ามศีรษะตัวเอง ตกกลางทุ่งนาไกลกว่า 400 เมตร จากนั้นโครงสร้างบ้านเกิดร้าว เสาและคานบ้านหักทรุดตัว
ขณะที่นางกุลฉัตร นครศรี อายุ 34 ปี ลูกสะใภ้ที่ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน อยู่ลำพังคนเดียวภายในร้านขณะเกิดเหตุ พยายามหนีตายคานออกจากร้าน เพราะถูกคานหล่นกระแทกหลัง ได้รับบาดเจ็บ ร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ อาการล่าสุดยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โชคดีที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูก มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ประกาศให้อำเภอพิชัย เป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินวาตภัย และประสานกำลังทหารและจิตอาสา ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนชาวบ้าน หลังเกิดพายุฤดูร้อน ที่จัดว่ารุนแรงที่สุดรอบ 90 ปีพื้นที่อำเภอพิชัย ที่พายุโหมพัดบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน 4 ตำบล ที่ ต.ท่าสัก ต.คอรุม ต.ไร่อ้อย และ ต.บ้ายดารา กว่า 480 หลังคาเรือน โดยที่ ตำบลบ้านดาราเสียหายมากถือ 282 หลังคาเรือน
