ประเด็นคือ – พบข้อความ “หมุดหลักฐานกรมแผนที่ทหาร” ระบุวันเดือนปีชัดเจน หลังชาวบ้านไปพบ ต่างฮือฮาไปทั่วเมืองว่าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ และมาตั้งอยู่บนอาคารชั้น 3 ของศาลเจ้าชื่อดังได้อย่างไร
วันที่ 27 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านต่างพากันฮือฮาไปทั่ว หลังมีคนไปพบหมุดหลักฐานของกรมแผนที่ทหารฝังอยู่บนตัวอาคารบนชั้น 3 ของศาลเจ้าดังกลางเมืองในตัวอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ที่ตั้งอยู่ย่านตลาดซอยเทศบาล 3 บ้านแก้งอรุณ หมู่ที่ 9 ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งระบุข้อความว่าเป็น “หมุดหลักฐานกรมแผนที่ทหาร” อย่างชัดเจน
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามสถานที่ดังกล่าว เพื่อไขข้อข้องใจของชาวบ้านว่าหมุดแผนที่ทหารถูกนำไปฝังไว้บนอาคาร 3 ชั้น ได้อย่างไร และแสดงถึงสัญลักษณ์อะไร เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณที่ชาวบ้านอ้างว่าพบหมุดแผนที่ทหารนั้นเป็นศาลเจ้าประจำอำเภอแก้งคร้อ สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอแก้งคร้อมายาวนาน สร้างขึ้นมานานกว่า 52 ปีแล้ว เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมใจของชาวบ้าน พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและคนไทยทั่วไปจะเดินทางมากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในศาลเจ้าตามความเชื่อกันมาช้านาน มีเนื้อที่ในบริเวณศาลเจ้าดังกล่าวกว้างกว่า 10 ไร่ โดยมีอาคารและสิ่งก่อสร้างโดยรอบไปทั่ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายมาโนช ตังอำนวย ประธานมูลนิธิศาล และ นายวิทยา หรือ เฮียเฒ่า กรรมการของมูลนิธิเม่งเก่ง แห่งนี้ และยอมรับว่ามีหมุดแผนที่ทหารถูกฝังอยู่บนอาคารชั้น 3 แห่งนี้จริง และได้พาเดินขึ้นไปบนอาคารที่ชาวบ้านเรียกว่าวิหารฟ้า อาคารที่ชาวบ้านบอกว่าพบหมุดแผนที่ทหารฝังอยู่ โดยภายในวิหารฟ้าแห่งนี้ประดิษฐานรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมและองค์เทพเจ้าองค์ต่างๆ อย่างสวยงามอีกมากมาย
เมื่อเดินขึ้นไปถึงบนชั้น 3 ของวิหารฟ้า ก็พบวัตถุทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 12 นิ้ว และมีหมุดทรงกรมลักษณะคล้ายทองเหลืองฝังอยู่ตรงกลาง มีข้อความที่ระบุในปัจจุบันค่อนข้างเลือนรางมากอยู่บริเวณหน้าแท่นบูชา เบื้องต้นไม่สามารถอ่านออกได้ ต่อมาจึงได้ให้นายเต้าหู้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเอาผงซักฟองและแปรงมาขัดคราบต่างๆ ออกจนหมด และมีข้อความปรากฏว่า “หมุดหลักฐานกรมแผนที่ทหาร” อย่างชัดเจน นายเต้าหู้เล่าว่า ตั้งแต่มาทำงานที่ศาลเจ้าแห่งนี้เมื่อกว่าสิบปีที่แล้วก็พบว่ามีอยู่แล้ว ซึ่งตนก็สงสัยแต่ก็ไม่ได้สอบถามคนอื่นๆ ว่าสิ่งนี้คืออะไร
จนต่อมา ผสข.ได้สอบถามรายละเอียดจากนายมาโนช ตังอำนวย และนายวิทยา หรือเฮียเฒ่า ก็เล่าว่า ตามประวัติศาลเจ้าแห่งนี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 หรือเมื่อ 52 ปีก่อน ส่วนวิหารหอฟ้าที่พบหมุดแผนที่นี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 โดยหมุดแผนที่ที่พบดังกล่าวนี้น่าจะถูกนำมาปักไว้ช่วงวันที่ 16 เดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2525 ซึ่งตนก็ได้รับฟังจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่มาเช่นกันว่า ช่วงนั้นได้มีทหารสังกัดกองทัพบกประมาณ 4 – 5 นาย เดินทางมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ โดยมาบอกว่าจะขอปักหมุดแผนที่ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้ถามว่าเป็นหมุดแผนที่อะไร เพียงแต่กำชับชาวบ้านว่าห้ามเคลื่อนย้าย ห้ามทำลายใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากจะทำการเคลื่อนย้ายจะต้องแจ้งทหารก่อน ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้องจนมาถึงปัจจุบัน
นายมาโนช กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองก็แปลกใจว่าทำไมถึงต้องนำหมุดแผนที่ฝังไว้บนอาคารสูง ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลก ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครที่อำเภอแก้งคร้อ เรามีแผนที่ลอยฟ้า และน่าจะเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่ส่วนหนึ่งก็ยังจะเป็นแหล่งเรียนรู้อีกแห่ง นอกจากการได้เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ หากใครที่อยากพบเห็นก็เชิญชวนมาดู สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปิดให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาหลักธรรมและกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอของ จ.ชัยภูมิ อีกแห่งที่สำคัญ
