จากกรณีชาวบ้านหนองสิม หมู่ 7 ต.นามาลา อ.นาแห้ว จ.เลย ร้องเรียนว่า กระท่อมไม้ไผ่ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามโครงการท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี ของกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดนมอดกินเกือบทั้งหลัง ทั้งที่ยังไม่ได้ใช้งานและที่ได้รับมาก็ไม่ตรงความต้องการของชาวบ้านนั้น
วันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านนาเกลี้ยง หมู่ 5 ต.นาพึง อ.นาแห้ว ซึ่งเป็นอีก 1 หมู่บ้านที่ได้รับงบประมาณ โครงการโอทอปนวัตวิถี พบว่ามีการจัดสรรงบประมาณกว่า 2,000,000 บาท กระจายพัฒนาชุมชนหลายโครงการ เช่นทำถนน สร้างอ่างเก็บน้ำ ปรับปรุงภูมิทัศน์หมู่บ้าน ปลูกต้นไม้ และที่เหลือนำมาเปิดศูนย์โอทอป ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ท้ายหมู่บ้าน พบมีซุ้มไม้ไผ่ 5 ซุ้ม ซุ้มแคร่มีหลังคา 5 หลัง โต๊ะแคร่ตัวเล็ก 1 ตัว ถูกทิ้งไว้ไม่มีการใช้งาน บางแคร่ก็เริ่มผุพังและมีมอดขึ้น
นายสุรัตน์ กุลศิริ อายุ 40 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านเกลี้ยง เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบงบประมาณลงมาประมาณ 2,000,000 กว่าบาท มาปรับปรุงภูมิทัศน์ของหมู่บ้าน ทำถนนหินคลุกไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ปลูกต้นไม้สองข้างทาง ซื้อวัสดุ และอีกหลายอย่าง ส่วนซุ้มไม้ไผ่มี 5 ซุ้ม ซุ้มขายของอีก 5 ซุ้ม และงบจัดงานพิธีเปิด เคยมีการทำประชาพิจารณ์ถึงงบประมาณว่าชาวบ้านต้องการอะไร เสนอโครงการไปแล้วแต่ไม่ได้ตามที่ชาวบ้านต้องการ ส่วนซุ้มไม้ไผ่ที่ได้มาชาวบ้านก็ไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าจะใช้งานได้นานแค่ไหน รวมทั้งไม่รู้เอามาใช้งานอะไร ตอนนี้ก็ตั้งอยู่ตรงนั้น ไม่มีชาวบ้านไปนั่งเล่นหรือไปช่วยกันดูแลเพราะอยู่ท้ายหมู่บ้าน
ด้านนางชะตา ธุลีจันทร์ พัฒนาการจังหวัดเลย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า งบประมาณชุมชนโครงการท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี จังหวัดเลย ได้รับงบประมาณ 14 อำเภอ ประมาณ 129 ล้านบาท เราได้จัดสรรให้กับอำเภอ และมอบอำนาจให้ทั้ง 14 อำเภอของจังหวัดเลยเป็นผู้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการกำหนด ข้อกำหนดสัญญาจ้าง กรรมการพิจารณาผล กรรมการตรวจรับ และดำเนินการสอบราคา
ผู้รับจ้างต้องดำเนินการ 3 ด้านคือ ปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ และเรื่องของการเปิดหมู่บ้านชุมชนโอทอปนวัตวิถี ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจรับงาน ตามข้อสัญญาการว่าจ้าง ถ้าไม่ถูกต้องผู้รับจ้างต้องกลับไปแก้ไข ส่วนกระท่อมไม้ไผ่ที่มีปัญหาไม่ตรงตามสเป็ค ยังไม่มีการตรวจรับงาน ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ร้องเรียนเข้ามา และสร้างความเข้าใจให้กับชุมชนว่าลักษณะงานมีอะไรบ้าง ชาวบ้านต้องช่วยกันดูแลและขับเคลื่อนเป็นชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวต่อไป ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ พช.อ.นาแห้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
อ่านกรณีของหมู่บ้านแรก
