
พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีรถเก๋งชนร้านเฟอร์นิเจอร์เสร็จแล้ว รอผลตรวจแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียว และนัดหมายให้คนขับรถเก๋งมารับทราบข้อกล่าวหา และจะนำตัวส่งฟ้องทันที ยอดความเสียหายทั้งหมดกว่า 81.5 ล้านบาท ทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ และร้านเหล็ก เจ้าตัวและครอบครัวเครียดหนัก
ความคืบหน้าเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านบางกอกลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 ของคืนวันที่ 18 ก.พ. ที่เกิดไฟลุกไหม้รถเก๋ง และลุกลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์หมดทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 80 ล้านบาท รวมถึงร้านเหล็กที่อยู่ติดกันเสียหายอีกประมาณ 1.5 ล้านบาท
ล่าสุดวันที่ 21 ก.พ. 62 ในส่วนของคดีนั้น ทางพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้สรุปสำนวนเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะส่งฟ้องศาลจังหวัดสงขลาได้ทันที ระหว่างนี้รอเพียงผลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของ นายพฤหัส แซ่จิว คนขับรถเก๋งเพียงอย่างเดียงเท่านั้น และเมื่อผลตรวจออกมาแล้ว ก็จะนัดให้นายพฤหัสมารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวส่งฟ้องศาลทันที

โดยยังคงตั้ง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย โทษปรับ 400-1,000 บาท และ ข้อหาขับรถขณะเมาสุรา โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจระงับใบขับขี่ไม่เกิน 6 เดือน หรือสั่งอายัดใบขับขี่
ส่วนยอดความเสียหายขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วเช่นกัน โดยในส่วนของร้านเฟอร์นิเจอร์มูลค่าความเสียหายคิดเป็นเงิน 80 ล้านบาท แยกเป็นโครงร้าง และที่พักอาศัย 40 ล้านบาท และสินค้าภายในร้าน 40 ล้านบาท ส่วนร้านเหล็กที่อยู่ติดกันจำนวน 1.5 ล้านบาท ทั้งความเสียหายของตัวอาคาร และความเสียหายที่ไม่สามารถเปิดกิจการได้ตามกปกติ
ขณะที่ในส่วนของ นายพฤหัส และครอบครัว ทั้งพ่อและแม่ขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่สภาพจิตใจย่ำแย่อย่างหนัก และไม่พร้อมที่จะเผยตัว หรือให้สัมภาษณ์ และปรากฏตัวต่อสื่อมวลชน หรือสาธารณะ อีกทั้งยังเกิดศึกแย่งตัวจากสถานีโทรทัศน์อีกหลายช่อง ที่พยายามติดต่อซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อให้เดินทางขึ้นไปสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งทีแรกนายพฤหัสรับปาก แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธ เพราะ ยังอยู่ในภาวะเครียดอย่างหนัก

ด้าน นายอัชอารีย์ วันดับดุลเลาะฮ์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ เปิดเผยว่า ตนเห็นใจกับครอบครัวคู่กรณีมาก และพร้อมที่จะรับคำขอโทษ และให้อภัย ยิ่งเห็นแม่ออกมายกมือไหว้ขอโทษ ตนก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ดี ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้มาคุย เพื่อหาทางออกร่วมกันได้ตลอดเวลา และในส่วนในทางคดีก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย









