งานเสวนา “ไขปริศนาภาพ Vincent Van Gogh โดยใช้วิทยาศาสตร์นำทาง” จัดโดย สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) เผยผลการพิสูจน์ภาพปริศนา สอดคล้องกับสมมติฐานว่าเป็นภาพเขียนของเเวนโก๊ะ อุ๊ เตรียมส่งภาพให้พิพิธภัณฑ์ในเนเธอร์แลนด์ ตรวจสอบต่อไป ซึ่งถ้าภาพดังกล่าวเป็นผลงานของเเวนโก๊ะจริง จะมีมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
วันที่ 29 พ.ค. 61 เพจสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้เผยแพร่เรื่องราวการพิสูจน์ภาพปริศนาของ อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี อดีตนักร้องชื่อดัง จากงานเสวนา “ไขปริศนาภาพ Vincent Van Gogh โดยใช้วิทยาศาสตร์นำทาง” จัดโดย สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.)
โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี เจ้าของภาพ , ดร.ศศิพันธุ์ คะวีรัตน์ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชำนาญการพิเศษ และ รศ.ปิติวรรธน์ สมไทย อาจารย์สาขากราฟิกอาร์ต เเละกราฟิกมีเดีย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะ
ซึ่งเพจสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฯ ระบุว่า จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยวิเคราะห์อายุของภาพตั้งแต่เส้นด้ายผ้าใบ สีที่ใช้ การลงแปรง สอดประสานบ่งชี้เป็นว่า เป็นภาพเก่าเเก่ตั้งเเต่ช่วงที่แวนโก๊ะยังมีชีวิตอยู่ เเต่ไม่สามารถระบุได้ว่า ภาพดังกล่าว เเวนโก๊ะเป็นผู้วาดหรือไม่
ทั้งนี้ต้องรวบรวมหลักฐานให้พิพิธภัณฑ์ในเนเธอร์แลนด์ตรวจสอบและรับรองก่อน และหากเป็นผลงานของแวนโก๊ะ ก็จะมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท โดย อุ๊ หฤทัย ได้เปิดเผยว่า ซื้อภาพดังกล่าวมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ยุโรปเก่า ที่ จ.นครปฐม ในราคา 1 พันบาท
ประวัติ วินเซนต์ แวนโก๊ะ
“วินเซนต์ แวนโก๊ะ” คือจิตรกรเอกของโลก ที่ภายในระยะเวลา 17 ปี สามารถสร้างงานได้กว่า 2,000 ชิ้น ทว่าขายได้เพียงภาพเดียวในราคาถูกแสนถูก แต่หลังจากเขาเสียชีวิต หลายๆ ภาพราคาก็พุ่งทะยานไปถึงหลักพันล้าน และเคยขึ้นทำเนียบภาพเขียนที่ราคาสูงที่สุดในโลกมาแล้ว
วินเซนต์ แวนโก๊ะ เกิดในย่านบราแบรนท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2396 (ค.ศ.1853) ในครอบครัวนักบวชโปรเตสแตนต์ เริ่มสนใจวาดภาพอย่างจริงจังเมื่ออายุ 20 ปี และฝึกฝนด้วยตัวเอง ทำให้ผลงานของเขามีสไตล์เฉพาะตัวแบบสุดๆ แต่ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับ อีกทั้งยังโดนดูถูกดูแคลนสารพัด
แต่เมื่อค้นพบว่าตัวเองเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แวนโก๊ะจึงทุ่มเททั้งชีวิตให้กับการวาดภาพในแบบที่ตัวเองอยากวาด ทำให้ปรมาจารย์ศิลปะในสมัยนั้นเห็นเข้าแทบอยากกรี๊ดออกมาดังๆ เพราะแต่ละภาพไม่ได้ใกล้เคียงนิยามของความงามในยุคนั้นเลย งานของเขาจึงโดนโขกสับซะะเละเทะ ส่งผลให้ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ลำบากยากเข็ญ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงในวัย 37 ปี
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10156672768794734.1073742172.338264494733&type=3
