ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้สัมภาษณ์ นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับความรุนแรงของพายุโซนร้อนปาบึกที่กำลังพัดเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ว่ามีความรุนแรงมากแค่ไหน หากเทียบกับพายุที่เคยพัดเข้าสู่ประเทศไทยในอดีต คือพายุไต้ฝุ่นเกย์ ที่สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดชุมพรและพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อปี 2532 พบว่าพายุโซนร้อนปาบึก จะส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน แต่อาจไม่สร้างความเสียหายมากเท่ากับพายุไต้ฝุ่นเกย์
ความเร็วลม
พายุปาบึก ความเร็วลมอยู่ที่ 65-95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเป็นพายุโซนร้อน ขณะที่พายุเกย์ เมื่อปี 2532 มีความเร็วลมอยู่ที่ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเป็นพายุไต้ฝุ่น ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่า
ความเสียหาย
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับจังหวัดที่พายุปาบึกเคลื่อนตัวผ่าน คืออาจทำให้บ้านเรือนที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรงพังเสียหาย โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมทะเลไม่ควรอยู่บ้านในช่วงที่พายุเข้า และควรหลบอยู่ในอาคารที่แข็งแรง นอกจากนี้ความรุนแรงของพายุปาบึกอาจทำให้ต้นไม่ที่ไม่แข็งแรงหักโค่นได้เช่นกัน
ขณะที่พายุไต้ฝุ่นเกย์ เป็นพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่เคยพัดเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อปี 2532 บริเวณแหลมตะลุมพุก จ.ชุมพร ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ทะเลมีคลื่นสูง 5-7 เมตร และมีลมกรรโชกแรง ทำให้เรือล่ม 391 ลำ หนึ่งในนั้นมีเรือขุดเจาะน้ำมันด้วย
พายุไต้ฝุ่นเกย์ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 446 คน บาดเจ็บอีก 154 คน บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย 38,002 หลัง ถนนพังเสียหาย 579 เส้นทาง โรงเรียนพัง 160 แห่ง พื้นที่การเกษตร 80,900,105 ไร่ สัตว์เลี้ยงตาย 83,490 ตัว ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากถึง 153,472 คน ความเสียหายมากมากกว่าหมื่นล้านบาท
การเคลื่อนตัว
การเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนปาบึกมีลักษณะเคลื่อนที่เร็ว ทำให้รอบหมุนนั้นอ่อนกำลังลง รอบหมุนจะช้าลงไปตามการเคลื่อนตัว ทำให้สร้างความเสียหายไม่มากนัก
ขณะที่การเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่นเกย์ มีลักษณะการเคลื่อนที่แบบชะลอตัว ทำให้พายุเพิ่มกำลังแรงขึ้น รอบหมุนเร็ว จึงสร้างความเสียหายมากกว่า
