
ประเด็นคือ – เปิดใจเจ้าอาวาส พระลูกวัด วัดหนองบัว เกือบถูกชายวัยกว่า 60 หัดขับรถยนต์ขับชน ขณะทำความสะอาดลานวัด พร้อมขอโทษสังคม ชูนิ้วกลางเพราะโมโห
ภายหลังจากที่มีคลิปวงจรปิดจับภาพ ขณะที่พระวัดหนองบัว จ.ตราด กำลังทำความสะอาดลานวัด แล้วมีรถกระบะสีขาวคันหนึ่งขับเข้ามาเกือบชนพระลูกวัดที่กำลังทำความสะอาดอยู่ สร้างความตกใจและมึนงงให้กับพระที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่รถกระบะจะขับมาจอดพร้อมทั้งขอโทษ และบอกว่ามาหัดขับรถแล้วก็ขับออกไป
จากนั้น พระครูประโชติบุญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ได้นำคลิปวงจรปิดโพสต์ลงเฟสบุ๊ก เพื่อเตือนภัยให้สังคมได้รับรู้
หลังจากที่คลิปได้เผยแพร่ลงโซเซียลไปแล้ว มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งคนขับรถและพระลูกวัดที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสม เพราะชูนิ้วกลางให้ จนทำให้คลิปนี้มีผู้แสดงความเห็นจำนวนมาก
วันนี้ (28 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ พระครูประโชติบุญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองบัว และพระพงศธร (ฐิตธมฺโม) ภมร หรือพระกอฟ พระลูกวัดที่ถูกรถยนต์เฉี่ยว
โดย พระครูประโชติบุญญารักษ์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ได้เรียกพระลูกวัดทั้งหมดมาร่วมกันทำความสะอาดลานวัดตามปกติ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังทำความสะอาดอยู่นั้น มีรถกระบะสีขาวขับช้าๆ มายังจุดที่พระกำลังทำความสะอาดอยู่ ก่อนที่จะเร่งเครื่องยนต์ ฝ่าเข้ามาในวงที่พระลูกวัดกำลังทำความสะอาดและเฉี่ยวพระพงศธรจนเสียหลัก รวมทั้งเกือบจะชนพระลูกวัดอีกรูปหนึ่ง

พระครูประโชติบุญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองบัว
ซึ่งตอนนั้นทั้งพระกอฟและพระที่อยู่ในเหตุการณ์มีอารมณ์โมโห ทำให้พระกอฟชูนิ้วกลางใส่รถยนต์คันนี้ ขณะที่คนขับรถยนต์เปิดกระจกขอโทษ จึงรู้ว่าคนขับเป็นชายอายุประมาณ 60 กว่าปีแล้ว และมีผู้หญิงวัยกลางคนนั่งข้างคนขับ ทราบสาเหตุว่าจะเหยียบเบรก แต่กลับไปเหยียบคันเร่งแทน
ด้านพระพงศธร ภมร เปิดเผยว่า จังหวะนั้นกำลังถือสายยางเดินเข้าไปทำความสะอาด และเห็นรถขับเข้ามาแล้ว แต่สงสัยทำไมยังขับเข้ามา เพราะได้กั้นทางไว้แล้ว แต่รถยนต์คันนี้ยังขับเข้ามาอีก และเร่งเครื่องขับพุ่งมาหาจนกระจกเฉี่ยวแขนนิดหน่อย ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วรู้สึกโมโหมาก หากไม่ได้อยู่ในผ้าเหลือง และคนขับรถยนต์พูดจาไม่ดีอีก เหตุการณ์อาจจะบานปลายกว่านี้

ส่วนพฤติกรรมที่ชูนิ้วกลางนั้น เพราะได้รับคำขอโทษจากคนขับรถที่เหมือนไม่จริงใจ เนื่องจากคนขับรถหัวเราะไปด้วย ขอโทษไปด้วย แต่อยากจะขอโทษสังคมที่แสดงพฤติกรรมแบบนี้อออกไป เพราะเกิดจากความโมโห และอยากจะเตือนคนที่หัดขับรถ ให้หาพื้นที่ปลอดคนในการหัดขับรถจะดีกว่า









