เปิดประวัติ “วัดพระธาตุดอยตุง–วัดพระธาตุดอยเวา” สถานที่บวชและปฏิบัติธรรมของทีมหมูป่า

เปิดประวัติ “วัดพระธาตุดอยตุง–วัดพระธาตุดอยเวา” สถานที่บวชและปฏิบัติธรรมของทีมหมูป่า

ในประเทศ

ย้อนตำนาน “วัดพระธาตุดอยตุง” สถานที่ทำพิธีบวชทีมหมูป่า ก่อนจะไปปฏิบัติศาสนกิจต่อที่ “วัดพระธาตุดอยเวา” จนกระทั่งลาสิกขา

ผ่านไปแล้วสำหรับงานบรรพชาอุปสมบท ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีและผู้ฝึกสอน รวม 12 คน ที่วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 พร้อมทดแทนพระคุณบิดา-มารดา และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ กองทัพเรือ ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน โดยได้ทำพิธีอุปสมบทที่ “วัดพระธาตุดอยตุง” ก่อนที่ทั้งหมดจะไปปฏิบัติศาสนกิจที่ “วัดพระธาตุดอยเวา” จนกระทั่งลาสิกขา

โดยวัดทั้งสองแห่งล้วนเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดในปัจจุบันด้วย “ทีมข่าวเวิร์คพอยท์” จึงอยากพาผู้อ่านทุกท่าน ย้อนเวลาไปดูประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจยิ่งของวัดทั้งสองกัน

ประวัติ “วัดพระธาตุดอยตุง” สถานที่ทำพิธีบวชทีมหมูป่า

วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่า “หน้าอก” ของ “ดอยนางนอน” ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขา โดยดอยตุงมีระยะทางจาก อ.เมืองเชียงราย ประมาณ 46 กม. และมีพระธาตุดอยตุงประดิษฐานอยู่บนยอดดอย มองเห็นได้ในระยะไกล เนื่องจากพระธาตุดอยตุงตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร

พระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ จ.เชียงราย ซึ่งมีความเก่าแก่ สวยงาม มองเห็นวิวธรรมชาติของเมืองเชียงรายได้อย่างเต็มตา มีลักษณะเป็นเจดีย์สีทองอร่าม 2 องค์คู่กัน ในรูปแบบทรงปราสาทยอดทรงระฆังกลมขนาดเล็ก ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม กรุกระเบื้องดินเผา และถือเป็น พระธาตุประจำปีกุน ซึ่งปีกุนในคติล้านนานั้น สัญลักษณ์คือช้าง (กุญชร) ไม่ใช่หมูดังที่เราเข้าใจกัน นอกจากนี้ เมื่อถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยตุง จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและเพื่อนบ้านจากประเทศใกล้เคียง เช่น ชาวเชียงตุงในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ชาวหลวงพระบาง เวียงจันทน์ สปป.ลาว เดินทางเข้ามานมัสการเป็นประจำทุกปี และในฤดูหนาวบรรยากาศรอบองค์พระธาตุจะสวยงามเป็นพิเศษ เพราะถูกหมอกสีขาวปกคลุมทั่วบริเวณ

ตำนานแห่งพระธาตุ

ตำนานของพระธาตุดอยตุงกล่าวว่า นี่คือเจดีย์แห่งแรกในอาณาจักรล้านนาอันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ที่พระเจ้าอชุตราชทรงอัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่ากันว่าในอดีตได้มีการปักธงตะขาบ (ตุง) ที่มีความยาวถึงพันวาไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงไปตกที่ไหน ก็จะยึดเอาเป็นที่ตั้งพระสถูป เหตุนี้เองจึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อพระธาตุดอยตุง

แต่เดิมพระธาตุดอยตุงมีองค์เดียว รูปแบบการก่อสร้างเป็นศิลปะเชียงแสนย่อมุมไม้สิบสอง คล้ายกับพระธาตุดอยสุเทพ ทั้งนี้ เมืองเชียงรายสมัยก่อนเป็นเมืองร้างอยู่หลายครา พระธาตุดอยตุงจึงขาดการบูรณปฏิสังขรณ์ ตัวพระธาตุทรุดโทรมและพังทลายลง พระเจ้ามังรายมหาราชจึงทรงมีรับสั่งให้สร้างเจดีย์อีกองค์ไว้ใกล้กันอีกองค์หนึ่ง จึงทำให้พระธาตุดอยตุงมี 2 องค์

ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 องค์พระธาตุทรุดโทรมมาก ครูบาเจ้าศรีวิชัย กับประชาชนเมืองเชียงรายจึงได้บูรณะขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นเจดีย์องค์ระฆังขนาดเล็ก 2 องค์ บนฐาน 8 เหลื่ยม ตามศิลปะแบบล้านนา การบูรณะครั้งหลังสุดมีขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2516 โดยกระทรวงมหาดไทยได้สร้างพระธาตุองค์ใหม่ขึ้นครอบพระเจดีย์เดิมไว้

สำหรับการเดินทางไปวัดพระธาตุดอยตุง ใช้เส้นทางเชียงราย – แม่สาย – พระตำหนักดอยตุง ก่อนจะถึงทางแยกเข้าพระตำหนักดอยตุง ให้ตรงไปทางสวนรุกขชาติดอยช้างมูบ จะมีป้ายบอกทางขึ้นวัดพระธาตุดอยตุง ระยะทางจากแยกพระตำหนักถึงวัดประมาณ 7 กม. ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีรถสวนลงมาได้ ส่วนระยะทางจากเชียงรายถึงพระธาตุดอยตุงประมาณ 60 กิโลเมตร โดยเปิดให้นมัสการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่วัดพระธาตุดอยตุง โทร. 053-767-015-7

 

ประวัติ “วัดพระธาตุดอยเวา” สถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของทีมหมูป่า

สำหรับ “วัดพระธาตุดอยเวา” นอกจากเป็นสถานที่ที่สมาชิกทีมหมูป่าอะคาเดมีทำพิธีปลงผม และพิธีบายศรีสู่ขวัญนาคแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่สมาชิกทีมหมูป่าจำวัดปฏิบัติธรรมด้วย หากไปดูประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุแห่งนี้แล้วจะเห็นว่า มีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านมาช้านาน

พระธาตุดอยเวา สร้างขึ้นใน พ.ศ.296 ในรัชสมัยพระองค์เวา รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ผู้ครองนครโยนกนาคพันธุ์ โดยชื่อนั้นได้นำมาจากพระนามของพระองค์เวา ต่อมาพระธาตุเจดีย์ได้พังลงตามกาลเวลา ซึ่งในตอนนั้นคฤหบดีอำเภอแม่สาย ได้ร่วมกับ พระภิกษุดวงแสง รัตนมณี พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา และกรมศิลปากร จึงร่วมกันจัดสร้างขึ้นใหม่

ในการขุดแต่งครั้งนั้น พบผอบหินสีดำ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 5 พระองค์ จึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานในองค์พระธาตุดังเดิม ซึ่งมีการวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2494 และสร้างเสร็จพร้อมฉลองสมโภชพระธาตุในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 โดยมีพุทธบริษัททั้งสองประเทศเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง เพราะถือว่าเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับความสำคัญของวัดพระธาตุดอยเวานั้น นอกจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า มีความเก่าแก่เช่นเดียวกับพระธาตุดอยตุงแล้ว พระธาตุดอยเวายังตั้งอยู่บนยอดดอยเวา แต่พระอุโบสถและเขตสังฆาวาสจะอยู่ที่เชิงดอย โดยผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไปนมัสการ ขณะที่การจัดประเพณีนมัสการพระธาตุในทุกๆ ปีนั้น จะมีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เหนือ หรือตรงกับเดือน 3 ใต้ คือ “วันมาฆบูชา” และมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันสงกรานต์ของทุกปี

จุดชมวิวมองเห็นได้ไกลถึงองค์เจดีย์ชเวดากองจำลองในประเทศเมียนมา

สิ่งสำคัญในวัดพระธาตุดอยเวาแห่งนี้  นอกจากจะมีพระธาตุเก่าแก่ให้ได้กราบสักการะบูชาแล้ว หากขึ้นมาที่นี่ ยังมีหอชมทิวทัศน์ ซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ในตัวเมืองแม่สาย และจังหวัดท่าขี้เหล็กของประเทศเมียนมา หรือประเทศพม่าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุเสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยาด้วย

ปัจจุบันนี้ บนพระธาตุดอยเวาได้ตกแต่งให้มีความร่มรื่นมากขึ้น และมีถนนขึ้น – ลงดอยเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี แต่เส้นทางค่อนข้างชัน มีรูปปั้นแมงป่องช้าง หรือแมงเวาขนาดใหญ่ ตั้งเป็นสัญลักษณ์อยู่บริเวณลานกว้างทางด้านเหนือขององค์พระธาตุ ศาสนสถานที่เหมาะแก่การไหว้พระบำเพ็ญกุศล และเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย

แมงเวา สัญลักษณ์ของวัดพระธาตุดอยเวา

สำหรับการเดินทางไปวัดพระธาตุดอยเวา ให้ใช้เส้นทางไป อ.แม่สาย ตัววัดจะอยู่ก่อนถึงชายแดนแม่สายราว 100 เมตร โดยทางเข้าวัดอยู่ทางซ้ายมือ มีบันไดขึ้นไปสู่พระธาตุ หรือนำรถไปจอดบริเวณจุดชมวิวเลยก็ได้เช่นกัน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระธาตุดอยเวา โทร. 053-731-527

(ภาพและข้อมูลบางส่วนจาก: chiangmainewschiangraifocuswikipediatourismthailand)

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง