เปิดแล้ว! นายกฯสั่งตั้งวอร์รูม “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” จัดการน้ำ

เปิดแล้ว! นายกฯสั่งตั้งวอร์รูม “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” จัดการน้ำ

กรมชลประทาน ร่วมบูรณาการ 9 หน่วยงาน ปฏิบัติงานศูนย์เฉพาะกิจจัดการน้ำภาวะวิกฤต

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (3 ส.ค.61) ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุม “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” พร้อมด้วย นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน เข้าร่วมประชุม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 9 หน่วยงาน ประกอบด้วยกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และ กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันวางแผนปฏิบัติศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต ร่วมกันติดตามสถานการณ์น้ำภายในประเทศ และปริมาณน้ำในเขื่อนที่เกินเกณฑ์ควบคุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่เกิดจากน้ำ ณ ห้องประชุมปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน

สำหรับ “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” เป็นศูนย์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้จัดตั้งขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง มีนายสำเริง แสงภู่วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ พร้อมด้วยผู้แทนที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแทนหน่วยงานได้จาก 9 หน่วยงานข้างต้น ร่วมปฏิบัติการที่ศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันนี้ (3 สิงหาคม 2561) เป็นต้นไป โดยใช้ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน สามเสน เป็นศูนย์ฯ ปฏิบัติการชั่วคราว

โดยทุกหน่วยงานจะร่วมบูรณาการข้อมูลทั้งการคาดการณ์แนวโน้ม สถานการณ์จริงในพื้นที่ และประเมินสถานการณ์ในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ

1.เพื่อติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะรวมข้อมูลน้ำทั่วประเทศจากทุกหน่วยงาน มาประมวลผลเป็นข้อมูลเดียวกันใช้กับทุกหน่วยงาน

2.กำหนดเกณฑ์โค้งปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ (Reservoir Operation Rule Curves) สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำให้เป็นไป อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จะพิจารณาเกณฑ์ควบคุมตอนบน (Upper Rule Curve) เพื่อควบคุมระดับน้ำตอนบนที่กำหนดไว้ไม่ให้มีระดับน้ำสูงเกินกว่าเกณฑ์ระดับควบคุมตอนบน เพื่อรองรับปริมาตรน้ำที่จะไหลลงอ่างฯ

3.พร่องน้ำจากอ่างฯ ที่เกินเกณฑ์ระดับควบคุมตอนบน (Upper Rule Curve) ให้อยู่ในเกณฑ์ภายใน 5 วัน

และ 4.การอำนวยการ กำกับ ประสาน และติดตาม แผนการเตรียมความพร้อมการรับมือน้ำหลาก ปี 2561 โดยเฉพาะการพร่องน้ำ การระบายน้ำ การชดเชยเยียวยา และการแจ้งข้อมูลข่าวสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ จะการรายงานความก้าวหน้าเป็นประจำทุกวันต่อรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) และนายกรัฐมนตรี ให้ทราบเป็นระยะ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจในเชิงนโยบายกรณีเกิดภาวะวิกฤตด้วย  โดยนายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบแนวทางและหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมครั้งนี้

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เพจ เรารักชลประทาน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง