
ประเด็นคือ – สองเด็ญหญิงวัย 12 ปี หนีออกจากบ้านที่ศรีสะเกษ ตั้งใจไปหาเพื่อนหญิงที่ จ.นครพนม โดยเเอบซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ บขส. พอมาถึง จ.อุดรฯ ก็เดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย กระทั่งมาพบโอ่งใหญ่หน้าร้านวัสดุก่อสร้าง จึงเข้าไปนอนข้างใน กระทั่งคนงานมาพบเข้า ก่อนเเจ้ง จนท.ตำรวจ
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 พ.ย. 60 ด.ต.ธีระชัย เพ็งคำศรี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าตำรวจชุมชนตำบลหนองนาคำ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีเด็กหญิงพลัดหลงมานอนหลับอยู่ในโอ่งแดง หน้าร้านวัสดุก่อสร้างพูลผล บ้านนาดอน ถนนอุดรธานี –สกลนคร ต.หนองนาคำ จึงออกไปตรวจสอบ
พบเด็กหญิง 2 คน นอนอยู่ภายในโอ่งแดงขนาดใหญ่ มีกระเป๋าเป้สีม่วง และสีลาย 2 ใบ ภายในไม่มีเสื้อผ้า ทั้งสองคนมีเงิน 40 บาท มีสมุดพกนักเรียน ชั้น ป.6 โรงเรียนเเห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ เด็กทั้งสองไม่ยอมพูดกับใคร ตำรวจจึงนำตัวไปสอบถามที่ ตชต.หนองนาคำ หาข้าวและน้ำให้รับประทาน โดยทั้งสองกินด้วยความหิว เมื่ออิ่มแล้วจึงบอกว่าชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี อยู่หมู่ 19 ต.พรมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ ติดตัว

ทั้งสองบอกว่าเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ได้ชักชวนกันหนีออกจากบ้านไปหาเพื่อนหญิงที่เคยเรียนด้วยกันแต่ย้ายไปอยู่ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยนั่งรถจากหมู่บ้าน มาลอบขึ้นรถทัวร์โดยสารที่ บขส.ในตัวเมืองศรีสะเกษ โดยหลบซ่อนตัวอยู่ใต้เบาะนั่งผู้โดยสาร และเผลอหลับไป และมารู้สึกตัวก็มืดค่ำแล้ว และลงจากรถที่ บขส.เมืองอุดรธานี ทั้งสองมีเงินติดตัวอยู่ 40 บาท จึงเดินเท้าตามป้ายที่บอกว่าไป จ.สกลนคร เดินไปเรื่อยๆ และรู้สึกเหนื่อยและอากาศหนาว พอเห็นโอ่งแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง จึงชวนกันปีนเข้าไปนอนหลับ และตื่นเพราะมีคนงานร้านขายวัสดุมาพบ และแจ้งตำรวจ
ด.ต.ธีระชัย เพ็งคำศรี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี จึงแจ้งถึงอันตรายที่เด็กจะได้รับจากการหลบหนีออกจากบ้าน ทำให้เด็กทั้งสองมีสีหน้าหวาดกลัว พร้อมกับบอกว่าอยากกลับบ้าน ตำรวจขอหมายเลขโทรศัพท์ของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ซึ่งเด็กทั้งสองบอกว่าไม่รู้ จึงโทรศัพท์ติดต่อไปยัง สภ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อสอบถามการแจ้งคนหาย และให้ติดต่อญาติตามที่อยู่ให้ทราบว่าเด็กทั้งสองปลอดภัย อยู่กับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย จึงให้เด็กทั้งสองสัญญาว่า ถ้าส่งขึ้นรถกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ ต้องกลับให้ถึงบ้าน และจะไม่หลบหนีระหว่างทางไปที่อื่นอีก ซึ่งเด็กทั้งสองก็สัญญา จึงนำตัวไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินการนำเด็กทั้งสองส่งกลับบ้านคืนผู้ปกครองอย่างปลอดภัย ต่อไป











