ฝนหลวงส่งเครื่องบินโปรยสารจำนวน 2 ตัน ให้ก่อตัวเป็นเมฆทำฝนหลวง ในระยะทางไปกลับ ระยอง–อู่ตะเภา ช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศครอบคลุมพื้นที่ กทม. คาดฝนตกช่วงบ่ายนี้
วันที่ 15 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายประสพ พรหมมา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ได้ประชุมร่วมกับนักบิน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนทำการขึ้นบิน เพื่อเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลโดยใช้เครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำ c 212 ขนสารทำฝนหลวง จำนวน 2 ตัน บินขึ้นจากสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โปรยสารในพื้นที่รอบ กทม.
นายประสพ พรหมมา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก กล่าวว่า วันนี้ความเร็วลมเฉลี่ยที่วัดได้ ความเร็วลมประมาณ 10 น๊อต มีก้อนเมฆก่อตัวมุ่งหน้าเข้า กทม. สภาพอากาศวันนี้ถือว่ามีสภาพที่ความชื้นสัมพัทธ์ระดับปฏิบัติการเกิน 60 % อากาศค่อนข้างจะยกตัวดี มีเรื่องอากาศเย็นปกคลุมอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งอากาศค่อนข้างทรงตัว
ขณะที่ช่วงเช้าดูจากเรดาร์ฝนหลวงสัตหีบ ตรวจวัดพบมีกลุ่มฝนบริเวณชายฝั่ง จ.สมุทรปราการ มีแนวโน้มการเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกของ กทม. รับแจ้งว่ามีฝนละอองทางช่วงพระรามเก้าเล็กน้อย ยืนยันสภาพอากาศมีแนวโน้มค่อนข้างดี มีแผนและเป้าหมาย จำนวน 2 รอบ จากสนามบินอู่ตะเภาไปทางด้านทิศใต้ของ อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยจะทำการบินเป็นเส้นตรงเรียบขนานข้างสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 20-30 ไมล์ ใช้เวลาปฏิบัติการ โปรยสารฝนหลวงประมาณครึ่งชั่วโมง ในระดับความสูง 6500 -7000 ฟุต โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 10.00 น.-11.00 น.
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในตอนนี้คือไม่สามารถบินเข้าใกล้ กทม. ได้โดยตรง เนื่องจากต้องประสานหอบังคับการบินสนามบินสุวรรณภูมิตลอดเวลา และถ้าวันนี้ปฏิบัติการเป็นผลสำเร็จ มีแนวโน้มดี จะมีฝนเกิดใน กทม. ช่วงเวลา 14.00 น. โดยวันนี้ได้ส่งเครื่องบิน จำนวน 2 ลำ โปรยสารไปทั้งหมด จำนวน 2 ตัน
สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในวันนี้ (15 ม.ค.) กรมควบคุมมลพิษเผยคุณภาพอากาศโดยรวมยังคงอยู่ในระดับ ‘เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ’ มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวานมากนัก
