
ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สทนช. ยังเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนแก่งกระจานต่อเนื่อง แม้ว่าระดับน้ำในเมืองเพชรบุรีจะเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่เขื่อนวชิราลงกรณและเขื่อนน้ำอูนระดับน้ำสูงขึ้น
วันที่ 27 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต กล่าวว่า ยังต้องเฝ้าระวังแม่น้ำเพชรบุรีที่ระดับน้ำยังคงสูง แม้มีแนวโน้มลดลง และในตัวเมืองเทศบาลเพชรบุรีจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงสูงกว่าตลิ่ง โดยแม่น้ำโขงมีแนวโน้มระดับน้ำสูงขึ้น น้ำสูงกว่าตลิ่งที่ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร และ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และต้องเฝ้าระวังบริเวณ จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ พร้อมทั้งยังเร่งระบายและพร่องน้ำต่อเนื่องออกจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำระดับน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุอ่าง

อย่างที่เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาณน้ำในเขื่อนยังคงที่จากเมื่อวานนี้ คือ 754 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 106 ของความจุอ่าง น้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) สูง 98 เซนติเมตร ระบายออก 12.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มลดลงและต่ำกว่าระดับตลิ่ง ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำ 8,195 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 93 ของความจุอ่าง ได้ระบายออกวันละ 52.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังไม่สูงกว่าตลิ่ง เนื่องจากได้ระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น 10 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 570 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 110 ของความจุอ่าง ระบายน้ำออก 8.85 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบายออกเพิ่มขึ้น มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งบริเวณบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม และบ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จากการเร่งพร่องน้ำให้เต็มศักยภาพของลำน้ำท้ายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อน โดยวันพรุ่งนี้ 28 ส.ค. 61 จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านทางกาลักน้ำอีก 1 ล้านลูกบาศก์เมตร









